ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บอร์ด สปสช. เห็นชอบยา 3 รายการ เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่กองทุนบัตรทอง ดูแลผู้มีสิทธิเพิ่มการเข้าถึงยาที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น ช่วยให้แพทย์มียาที่ให้บริการเพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่ม “วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์” ให้บริการหญิงตั้งครรภ์ ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันเด็กแรกเกิด อนุมัติปรับแผนงบจัดซื้อปี 2566 จัดซื้อวัคซีนฯ วงเงินกว่า 41 ล้านบาท เป้าหมายบริการหญิงตั้งครรภ์ 1.1 แสนคน   


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ครั้งที่ 7/2566 ที่ผ่านมา มีวาระเรื่องพิจารณา “ข้อเสนอรายการยาที่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ” เสนอโดย รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบ

ข้อเสนอดังกล่าว บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบยา 3 รายการ และวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ดังนี้ 

1. ยาโปรทรอมบินคอมเพล็กซ์เข้มข้น (aPCC) สำหรับรักษาภาวะเลือดออกในผู้ป่วยฮีโมฟีเลียที่มีสารต้านแฟคเตอร์สูง 
2. ยาคาร์กลูมิคแอสิด (carglumic acid) สำหรับรักษาภาวะแอมโมเนียในเลือดสูงในผู้ป่วยโรคหายาก 3 โรค ได้แก่ ภาวะพร่องเอนไซม์ N-acetylglutamate synthase หรือ NAGS deficiency 
โรคกรดเมทิลมาโลนิกคั่งในเลือด (methylmethylmalonic acidemia) และ โรคกรดโพรพิโอนิกคั่งในเลือด (propionic acidemia) 
3. ยาโซมาโทรปิน (somatropin) สำหรับผู้ป่วยขาดโกรทฮอร์โมน (growth hormone deficiency) อายุ 0-2 ปี ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และวัคซีน 1 รายการ คือ วัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ (acellular pertussis vaccine) สำหรับหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 27-36 สัปดาห์ โดยเป็นวัคซีนที่วิจัยและพัฒนาในประเทศและอยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทย 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบการปรับแผนและวงเงินการจัดหายาฯ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไอกรนชนิดไร้เซลล์ สำหรับหญิงตั้งครรภ์จำนวน 110,000 โด้ส ในวงเงินไม่เกิน 41,397,849 บาท โดยให้จัดซื้อจากรายการในบัญชีนวัตกรรมไทยทั้งหมด ซึ่ง สปสช. มีนโยบายที่ให้การสนับสนุนบัญชีนวัตกรรมในประเทศ โดยวัคซีนที่ฉีดให้กับหญิงตั้งครรภ์นี้ เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคไอกรนให้กับทารกแรกที่ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนโดยตรงได้ และลดอัตราการป่วยหรือนอนโรงพยาบาลจากโรคไอกรนได้  

ทั้งนี้รายการยาและวัคซีนดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาด้านประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญในคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชีวัคซีนหลักแห่งชาติแล้ว และอยู่ในระหว่างกระบวนการเสนอรองนายกรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

“รายการยาที่บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบและบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ใหม่เพิ่มเติมในระบบบัตรทอง 30 บาทในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองฯ ได้รับการดูแลและรักษาที่ดีขึ้นจากยาใหม่ที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้แพทย์มียาที่ให้บริการเพิ่มขึ้น โดยเป็นไปตามที่อนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้พิจารณาแล้วว่าเป็นยาที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิผลในการรักษา รวมถึงวัคซีนที่มีประสิทธิผลในการป้องกัน สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการพัฒนาระบบของ สปสช. อย่างต่อเนื่อง” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
• ไลน์ Traffy Fondue เป็นเพื่อนใน LINE ค้นหาไอดี @traffyfondue หรือคลิก https://lin.ee/nwxfnHw