ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. มอบของขวัญปีใหม่ 2566 สนับสนุนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” จัดสิทธิประโยชน์เพื่อผู้สูงอายุ มอบ “แว่นสายตา ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และฟันเทียม/รากฟันเทียม” ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี และดูแลด้านการรักษาพยาบาล สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค อย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบของขวัญผู้มีสิทธิบัตรทองทุกกลุ่มวัย เพิ่มความสะดวกใช้สิทธิบริการสร้างเสริมสุขภาพฯ ขยายระบบจองคิวผ่านแอป “เป๋าตัง” ทั่วประเทศ   


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ประเทศไทยก้าวได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ โดยมีประชากรผู้สูงอายุเพิ่มใหม่ปีละ 1 ล้านคน และด้วยสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย จึงเป็นกลุ่มประชากรที่ต้องให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพอย่างยิ่ง กระทรวงสาธารณสุข โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง พร้อมมอบบริการและวัสดุอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพแก่ผู้สูงอายุ เป็นของขวัญปีใหม่ตลอดปี 2566 ในส่วนของ สปสช.จึงขอมอบ “สิทธิประโยชน์การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ” ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรอง 30 บาท เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่มอบให้กับคนไทย 

1

ทั้งนี้ เริ่มจากการมอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ 3 รายการ ได้แก่ 

1.แว่นสายตา สำหรับผู้สูงอายุที่มีสายตาสั้น หรือสายตายาว ซึ่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จำนวน 5 แสนราย โดย สปสช. สนับสนุนให้แต่ละพื้นที่จัดทำโครงการขอรับงบประมาณจาก “กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) ในการค้นหา คัดกรอง จัดซื้อแว่นสายตาและส่งต่อผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติทางการมองเห็นอื่นเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา งบประมาณดำเนินการจำนวน 60 ล้านบาท

2.ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ และแผ่นเสริมซึมซับการขับถ่าย สำหรับผู้สูงอายุ 2 กลุ่ม คือ ผู้ที่มีคะแนน ADL (ความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวัน) ระหว่าง 0–6 คะแนน และผู้ที่มีภาวะกลั้นปัสสาวะอุจจาระไม่ได้ โดยสนับสนุนให้แต่ละพื้นที่ มีการดำเนินงานสำรวจ ค้นหา ผู้สูงอายุ และผู้มีสิทธิ ได้รับการสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับ และแผ่นเสริมซึมซับการขับถ่าย โดยจัดทำ care plan (แผนการดูแลสุขภาพรายบุคคล) และเสนอโครงการเพื่อขอรับงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น ได้แก่ กองทุนสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง (Long term care) กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น (กปท.) และกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด ปี 2566 กำหนดเป้าหมาย 5 ล้านชิ้น ดูแล 50,000 ราย งบประมาณดำเนินการจำนวน 500 ล้านบาท

2

3.ฟันเทียม และรากฟันเทียม สิทธิประโยชน์เพื่อดูแลผู้ที่สูญเสียฟัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุจำนวน 78,000 ชิ้น และรากฟันเทียม สำหรับผู้ที่มีปัญหาใส่ฟันเทียมแล้วหลวม 7,200 ชิ้น โดยเบิกจ่ายงบประมาณ จากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจ่ายชดเชยให้หน่วยบริการที่ให้บริการ 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งการรักษาแบบ ผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ครอบคลุมการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นโรคค่าใช้จ่ายสูง อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม และผ่าตัดตาต้อกระจก เป็นต้น และโรคเรื้อรังที่ต้องรักษาต่อเนื่อง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น รวมไปถึง สิทธิประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง เพื่อการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขในชุมชน 

3

สำหรับในด้านสิทธิประโยชน์บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค นพ.จเด็จ กล่าวว่า สปสช. ได้จัดสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นเพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดี ได้แก่ บริการฉีดวัคซีนป้องกันคอตีบและบาดทะยักทุก 10 ปี -การประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน การตรวจวัดดัชนีมวลกายและความดันโลหิต การตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคเบาหวาน การคัดกรองปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง การคัดกรองโรคซึมเศร้า การคัดกรองมะเร็งลำไส้ และการเคลือบฟลูออไรด์ 

นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีใหม่นี้ สปสช.ยังมีของขวัญที่มอบให้กับผู้สิทธิบัตรทอง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคภายใต้สิทธิประโยชน์กองทุนบัตรทอง โดยการจองคิวรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง จากเดิมให้บริการเฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น แต่ในปี 2566 นี้ สปสช.จะขยายบริการจองคิวผ่านแอปเป๋าตังไปทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการในบางพื้นที่และบางหน่วยบริการแล้ว ซึ่งประชาชนทั่วประเทศสามารถจองคิวล่วงหน้าเพื่อใช้สิทธิบรbการได้ อย่างไรก็ตามสำหรับหน่วยบริการที่ยังไม่มีระบบการจองคิวนั้น จะปรากฏเป็นหมายโทรศัพท์ของหน่วยบริการนั้น ซึ่งท่านสามารถโทรนัดรับบริการได้เช่นกัน

5

ขั้นตอนการจองคิวใช้สิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในแอปเป๋าตัง 
1.เข้าสู่แอป เป๋าตัง
2.กดเลือก “กระเป๋าตังสุขภาพ”
3.กดเลือก “หน้าหลัก” ขั้นตอนนี้ให้ท่านลงทะเบียน หลังจากนั้นจะปรากฏชื่อ นามสกุล และสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน 
4.กดเลือก “สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)”
5.กดเลือกรายการสิทธิประโยชน์ที่ต้องการรับบริการ
6.กดเลือกหน่วยบริการ และดำเนินการจองสิทธิ/จองคิวรับบริการ สำหรับหน่วยบริการที่ยังไม่มีระบบการจองคิวนั้น จะปรากฏเป็นหมายโทรศัพท์ของหน่วยบริการนั้น ซึ่งท่านสามารถโทรนัดหมายเพื่อไปรับบริการได้เช่นกัน    

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบ สปสช. ใช้ได้เฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เท่านั้น สำหรับสิทธิอื่นๆ เช่น ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ รอประกาศอีกครั้ง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ