ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาพันธ์เครือข่ายนักสาธารณสุขฯ เตรียมเดินหน้าฟ้องศาลปกครอง เรียกร้องความเป็นธรรม กรณี สธ. จัดคนลงตำแหน่ง ‘นักสาธารณสุข’ ตกหล่นนับหมื่นคน ทั้งที่มีคุณสมบัติครบตามที่ ก.พ. กำหนด 


จากกรณีเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 ที่ประชุม อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข (อ.ก.พ.สธ.) ครั้งที่ 2/2567 มีมติอนุมัติการเปลี่ยนชื่อตำแหน่งในสายงานตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข เป็นตำแหน่งนักสาธารณสุข ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการหรือชำนาญการ (ซี 6 - 7) และอนุมัติปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งนักสาธารณสุข ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) จำนวน 1,459 ตำแหน่งนั้น (บรรจุตำแหน่ง ‘นักสาธารณสุข’ คืบ! สธ.อนุมัติแล้ว 1,495 คน คาดรอบหน้าแต่งตั้งได้มากขึ้น | TheCoverage.info)

ล่าสุด ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร ทนายความจาก สมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมไทย (สคสท.) เปิดเผยว่า กรณีการจัดคนลงตำแหน่งนักสาธารณสุขของ สธ. เพียงแค่ 1,459 คน ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนอย่างชัดเจน เพราะยังมีผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนดไว้อีกประมาณ 9,760 คน ซึ่งมีสถานะเป็นข้าราชการ แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ได้การเปลี่ยนตำแหน่งเป็นนักสาธารณุสข

นอกจากนี้ การจัดคนเข้าสู่ตำแหน่งครั้งนี้ ยังจำกัดเฉพาะในหน่วยงานบริหารราชการส่วนภูมิภาค สังกัด สธ. เท่านั้น เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และยกเว้น หน่วยงานบริหารราชการส่วนกลาง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่งไว้ ซึ่งถือเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบวิชาชีพมากกว่า 2.6 หมื่นคน ที่รอคอยด้วยความหวังที่ สธ. จะเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิมเป็นนักสาธารณสุขซึ่งเป็นตำแหน่งประเภทวิชาชีพเฉพาะ 

ดร.วศิน กล่าวว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตัวผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเป็นข้าราชการในหน่วยงานสังกัด สธ. ทางสมาพันธ์ฯ ในฐานะที่เป็นองค์กรเครือข่ายที่ดูแลสิทธิผลประโยชน์ของสมาชิกที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลและกระบวนการในการจัดคนเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุขครั้งนี้  

รวมถึงตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขประกอบการคัดเลือกบุคคลที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีคุณสมบัติเฉพาะให้เข้าสู่ตำแหน่งได้เพียงแค่ 1,459 คน ว่ามีวิธีการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขอย่างไร เนื่องจากการเข้าสู่ตำแหน่งเป็นการได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบวิชาชีพพึงได้รับจากการเข้าสู่ตำแหน่ง และบุคลากรที่เหลือที่ยังไม่เข้าสู่ตำแหน่งซึ่งมีสิทธิพึงจะได้เข้าสู่ตำแหน่งต้องเสียประโยชน์จากการไม่ได้เข้าสู่ตำแหน่ง 

“ทางสมาพันธ์ฯ ยินดีที่จะต่อสู้เพื่อให้สมาชิกซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนได้รับสิทธิประโยชน์อันพึงได้รับจากการเข้าสู่ตำแหน่ง และขอเชิญชวนสมาชิกผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชนที่เสียสิทธิดังกล่าวได้ร่วมลงชื่อเป็นผู้เสียหายในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองในครั้งนี้” ดร.วศิน กล่าว