ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘ทันตแพทยสภา’ เสนอ ‘หมอชลน่าน’ พัฒนาระบบ – บุคลากรด้านสุขภาพช่องปาก ‘หนุนงบฯ ผลิตทันตแพทย์ 3.8 ล้านต่อคน – ผลักดันให้นักอนามัยช่องปากเป็นสายงานใหม่ ก.พ. – เพิ่มงบฯ บริการทันตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ’


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการทันตแพทยสภาวาระที่ 10 วาระพิเศษ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี ผศ.ดร.ทพ.สุชิต พูลทอง เป็นประธานในการประชุม เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2567 ซึ่งในการประชุมได้มีการนำเสนอการพัฒนาระบบสุขภาพช่องปาก และทันตบุคลากรเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากยิ่งขึ้นใน 4 ประเด็น

ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดมีดังนี้ 1. วางรากฐานระบบดูแลช่องปากสำหรับคนไทยให้มั่นคงด้วยทันตกรรมปฐมภูมิคุณภาพ โดยสนับสนุนการผลิต พัฒนา และการจ้างงานทันตบุคลากรที่มีความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อรองรับระบบสุขภาพปฐมภูมิในอนาคต รวมถึงผลักดันมาตรฐานงานสุขภาพช่องปากในระบบสุขภาพปฐมภูมิภายใต้การดูแลโดย 1 ทันตแพทย์ : 1 ทันตาภิบาล : 1 หมื่น ประชากร ให้เป็นมาตรฐานบริการสุขภาพที่ประชาชนควรได้รับตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 

ตลอดจนสนับสนุนงบประมาณผลิตทันตแพทย์ระดับปริญญาตรีในอัตรา 3.8 ล้านบาทต่อคน สำหรับทันตแพทย์คู่สัญญาในโครงการแก้ปัญหาการกระจายทันตแพทย์ โดยให้มีเงื่อนไขคือ เข้ารับราชการเพื่อรองรับการพัฒนาระบบบริการทันตกรรมปฐมภูมิและทันตกรรมครอบครัว และผลักดันให้มีตำแหน่งนักอนามัยช่องปาก เป็นสายงานใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อรองรับการทำงานของทันตาภิบาลให้พร้อมทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพในคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ และสังคมสูงวัย

2. ผลักดันให้รัฐเพิ่มงบประมาณสำหรับจัดบริการทันตกรรม และการดูแลสุขภาพช่องปากผ่านระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเฉพาะในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) และระบบประกันสังคม เพื่อรองรับการขยายตัวของโรงพยาบาลทันตกรรมในสังกัด สธ. รวมถึงเพียงพอสำหรับการจัดบริการตามสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมของคนไทย

3. เร่งพัฒนาระบบบันทึก และแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพให้ครอบคลุมข้อมุลด้านสุขภาพช่องปากตามมาตรฐานชุดข้อมูลด้านสุขภาพช่องปากที่ทันตแพทยสภากำหนด ซึ่งได้เริ่มบันทึกข้อมูลสำหรับการจัดบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ในคลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่นด้วยโปรแกรม A-MED และ DENT CLOUD พร้อมทั้งพัฒนาให้เข้าถึงโปรแกรมบันทึกข้อมูลสุขภาพโดยเฉพาะระบบหมอพร้อมของ สธ.

4. เตรียมระบบสนับสนุนการบริการทันตกรรมเพื่อรองรับการขยายตัวสู่เศรษฐกิจสุขภาพด้วย DENTAL TOURISM เช่น การจัดตั้งศูนย์ล่ามแปลภาษา การพัฒนาระบบเบิกจ่ายค่ารักษากับบริษัทประกันสุขภาพต่างประเทศ ระบบการชดเชยเยียวยากรณีเหตุสุดวิสัยจากการรักษาทางทันตกรรม เป็นอาทิ