ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ลงพื้นที่ติดตาม “โครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิง” ผ่านงบ กปท. เผยภาพรวมทั่วประเทศมี อปท. ร่วมโครงการผ้าอ้อม 2,799 แห่ง มีผู้ป่วยได้รับผ้าอ้อม 106,938 ราย แยกเป็นผ้าอ้อม 45.1 ล้านชิ้น และแผ่นรองซับ 2 ล้านชิ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย และลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน พร้อมชื่นชม “เทศบาลตำบลพนา” ใช้งบ กปท. สร้างเสริมสุขภาพผ่านการมีส่วนร่วมในชุมชน ด้าน ผอ.กองสาธารณสุขฯ ใช้ “กูเกิ้ลฟอร์ม” หนุนการทำงานผู้ดูแล สร้างความสะดวกในการติดตามผู้ป่วยในชุมชน


เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (รองเลขาธิการ สปสช.) พร้อมด้วย นางมลุลี แสนใจ ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 10 อุบลราชธานี ลงพื้นที่เยี่ยมชมและรับฟังการดำเนินงาน “โครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่แผ่นรองซับการขับถ่ายและผ้าอ้อมทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึงพิง และบุคคลที่มีภาวะปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้” ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น (กปท.) เทศบาลตำบลพนา อ.พนา จ.อำนาจเจริญ โดยมี ว่าที่ พ.ต.เผชิญลาภ อินทรจันทร์ นายกเทศมนตรีพนา พร้อมด้วย นายสมชัย วรรณสุทธิ์ นายอำเภอพนา ให้ข้อมูลการดำเนินงาน

ทพ.อรรถพร กล่าวว่า เทศบาลตำบลพนา มีการบริการจัดการเงินกองทุน กปท. ที่ยอดเยี่ยม และมีการบริหารจัดการด้วยการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมกับชุมชน ในการใช้งบประมาณจากกองทุน กปท. เข้าไปหนุนเสริมการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคผ่านกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน นอกจากนี้ยังได้คิดค้นนวัตกรรมที่เข้ามาเสริมการทำงานด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะกับการดูแลผู้ผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้การดูแลมีความสะดวก และสามารถติดตามการดูแลได้อย่างเรียลไทม์ นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อื่นๆ ที่ต้องบริหารจัดการเงินกองทุน กปท. สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ

นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่ครอบคลุมประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพ ผ่านการใช้งบประมาณในกองทุน กปท. ที่ สปสช. และ อปท. สมทบเงินร่วมกันในกองทุน จากข้อมูลเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2567 ภาพรวมมีกองทุน กปท. ทั่วประเทศจำนวน 7,755 แห่ง ดำเนินการโครงการผ้าอ้อม จำนวน 2,799 แห่ง หรือจำนวน 4,831 โครงการ มีผู้ที่ได้รับผ้าอ้อมจำนวน 106,938 ราย เป็นจำนวนผ้าอ้อมจำนวน 45.1 ล้านชิ้น และแผ่นรองซับ 2 ล้านชิ้น ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 440.77 ล้านบาท

ว่าที่ พ.ต.เผชิญลาภ กล่าวว่า เทศบาลตำบลพนาให้ความสำคัญกับการสนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุข เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิงและบุคคลที่มีภาวะปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ที่จำเป็นต้องใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยทางเทศบาลตำบลพนาได้ลงพื้นที่ค้นหาประชาชนที่จำเป็นต้องได้รับผ้าอ้อมผู้ใหญ่ร่วมกับ CM (Care Manager) และ CG (Care Giver) และพบกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 44 ราย จึงได้จัดซื้อผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้กลุ่มเป้าหมายจากงบกองทุน กปท. เพื่อนำไปให้ใช้ในชีวิตประจำวัน เฉลี่ยวันละ 2 ชิ้น ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี

5

ทั้งนี้ กองทุน กปท.ของเทศบาลตำบลพนา ได้รับการจัดสรรจาก สปสช. จำนวน 137,025 บาท ขณะเดียวกัน เทศบาลตำบลพนาก็สมทบเงินเข้ากองทุนอีก 140,000 บาท ซึ่งเป็นการสมทบมากกว่า 100% แม้ว่าจะเป็นท้องถิ่นขนาดเล็กที่ได้งบประมาณน้อย แต่ด้วยความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุในพื้นที่ นอกจากการดูแลผู้สูงอายุด้วยผ้าอ้อมผู้ใหญ่ งบประมาณส่วนหนึ่งยังนำไปใช้ทำกิจกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชนต่างๆ ทั้ง 5 ชุมชน เพื่อให้คนพนาสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ

นางสาวสุชาดา กระดาษ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลพนา กล่าวว่า ในส่วนการดูแลผู้สูงอายุที่ติดบ้านติดเตียงและประชาชนที่มีภาวะพึ่งพิง จะอาศัยกำลังหลักจาก CG ในพื้นที่ที่มีอยู่ 7 คน ซึ่งจะดูแลประชาชนเฉลี่ย CG 1 คนต่อผู้มีภาวะพึ่งพิง 6 คน ซึ่งถือว่าเพียงพอ และยังมี CM ทีเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ คอยวางแผนการดูแลประชาชนแบบรายบุคคลให้

4

ขณะเดียวกันเทศบาลตำบลพนายังพัฒนาโปรแกรมแบบง่ายผ่านระบบกูเกิลฟอร์ม (Google Forms) โดยออกแบบการสำรวจและการดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง เพื่อให้ CG ที่ลงพื้นที่ไปดูแลประชาชน ได้บันทึกการทำงานอย่างง่าย ไม่ต้องมานั่งเขียนรายงานเหมือนแต่เดิม และทำให้มีการตรวจสอบการทำงานแบบเรียลไทม์ เพราะเมื่อมีการบันทึกในระบบกูเกิลฟอร์มแล้ว ก็จะมีการส่งบันทึกเข้ามาในกลุ่มไลน์ ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นผลการทำงานได้ในทันที

ทั้งนี้ คณะ สปสช. และเทศบาลตำบลพนา ยังได้ร่วมกันลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยติดผู้สูงอายุที่ติดบ้านติดเตียง พร้อมกับมอบผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้ใช้งานจำนวน 2 คน โดยรายแรกเป็นผู้ป่วยติดเตียง ที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง, ความดันโลหิตสูง ป่วยติดเตียงมาแล้ว 1 ปี สำหรับรายที่สอง เป็นผู้สูงอายุ 93 ปี ป่วยโรคเรื้อรัง เป็นความดันโลหิตสูงมา 12 ปี และป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาแล้ว 3 ปี อีกทั้งมีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่ได้ โดยทั้งสองรายมี CG เข้ามาดูแลสัปดาห์ละ 1 ครั้งด้วย

5

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1. สายด่วน สปสช. 1330
2. ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ