ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นายกฯ โชว์วิชั่นยกระดับประเทศเป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับโลก หลังพบปี 66 การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ กวาดเงินเข้าประเทศ 4 หมื่นล้าน พร้อมผลิตหมอ-พยาบาลให้พอ แถมด้วยยกระดับคุณภาพชีวิตบุคลากรทางการแพทย์ให้ดีขึ้น


วันที่ 22 ก.พ.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง แถลงวิสัยทัศน์ถึงประเด็นการพัฒนา และยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) ในงาน Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” ว่า รัฐบาลจะผลักดันอุตสาหกรรมสาธารณสุข ให้เป็นศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจรของโลก ด้วยเพราะระบบการรักษาพยาบาลของประเทศไทยมีชื่อเสียงระดับโลก ทั้งศาสตร์การดูแลสุขภาพแผนไทยที่มีชื่อเสียง บุคลากรที่มีคุณภาพ และ Service Mind ทั้งยังสามารถดูแลได้ครอบคลุมตั้งแต่เกิดไปจนถึงวัยชรา และรักษาได้ทุกโรค ที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล จนกลายเป็นอีกจุดขายดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยปี 2566 พบว่าการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ สร้างเม็ดเงินได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าพัฒนาระบบประกันสุขภาพของคนไทย จาก 30 บาทรักษาทุกโรค ยกระดับไปเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งในส่วนนี้จะทำให้คนไทยเข้าถึงระบบรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นทั้งในโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน ใช้ AI เชื่อมฐานข้อมูลทั้ง 77 จังหวัดด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียว ซึ่งขณะนี้นำร่องไปแล้ว 4 จังหวัด และจะขยายอีก 8 จังหวัดในเดือนมี.ค.นี้ ก่อนขยายไปทั่วประเทศภายในสิ้นปี 2567

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะเพิ่มจำนวนแพทย์ พยาบาลให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งจะพัฒนาคุณภาพ ยกระดับชีวิตบุคลากรให้ดีกว่าเดิม และจะผลักดันการแพทย์แผนไทย นวดแผนไทย สปาแผนไทย สมุนไพร รวมทั้งจะสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทำใบรับรองประกาศนียบัตร และผลักดันให้ไปเปิดศูนย์ Wellness Center ได้ในต่างประเทศ