ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สบส. จัดเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความเห็น ร่างแผนยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) พ.ศ. 2568 – 2577


กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดเวทีประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ. 2568 - 2577) จากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการปรับปรุงยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนานาชาติ พร้อมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 ครม. ได้เห็นชอบหลักการในองค์ประกอบของคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ฉบับปรับปรุง โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับหมอบหมายเป็นประธาน กรม สบส. จึงได้จัดประชุมประชาพิจารณ์ขึ้น

1

ทั้งนี้ เพื่อเปิดรับฟังความเห็นต่อ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ. 2568 – 2577) และทบทวนยุทธศาสตร์ เพื่อจัดทำกรอบและทิศทางการบริหารขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ

นพ.สุระ กล่าวต่อไปว่า โดยมุ่งเน้นกลไกใน 4 ผลผลิตหลัก คือ 1. ศูนย์กลางบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) 2. ศูนย์กลางบริการรักษาพยาบาล (Medical Service Hub) 3. ศูนย์กลางบริการวิชาการทางการแพทย์ (Academic Hub) และ4. ศูนย์กลางยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) เป้าหมายเพื่อพร้อมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสุขภาพของโลก

5

4

นพ.สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวเสริมว่า การประชุมประชาพิจารณ์ในครั้งนี้ เป็นการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งสิ้น 150 คน เพื่อทบทวนและปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์นโยบาย Medical Hub พ.ศ.2568-2577 3 ด้าน ได้แก่ 1. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร 2. การพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมการแพทย์แบบครบวงจร และ3. ส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์

2

รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวอีกว่า หลังจากการรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ สบส. จะเสนอร่างแผนยุทธศาสตร์ฯ ต่อคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ที่มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับหมอบหมายเป็นประธาน และเสนอต่อ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป

5