ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘สมาคมฟ้าสีรุ้ง’ เห็นด้วย ให้ยาฮอร์โมนอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ชี้ ช่วย LGBTQ+ เข้าถึงระบบสุขภาพมากขึ้น มองระยะยาวรัฐจะลดเงินค่ารักษาได้อีกมาก เผย เด็กข้ามเพศมีผลกระทบหนัก ทุกวันนี้ใช้ฮอร์โมนผิดๆ ถูกๆ กระทบตับ ไต ลิ่มเลือดอุดตัน 


นายธีรศักดิ์ ประสานพิม รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “The Coverage" ตอนหนึ่งว่า เห็นด้วยที่ภาครัฐกำลังพิจารณาเรื่องการให้ยาฮอร์โมนเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เพื่อรองรับประชาชนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) เพราะผลในทางอ้อมจะเป็นการดึงกลุ่ม LGBTQ+ เข้าสู่ระบบบริการสุขภาพมากขึ้น รวมถึงในอนาคตจะเป็นการช่วยลดงบประมาณการเงินการคลังของประเทศ ในการสนับสนุนเพื่อดูแลสุขภาพประชาชน เนื่องจากการให้ยาฮอร์โมนอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ จะทำให้การใช้ยาฮอร์โมนของกลุ่มประชาชนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อสุขภาพ สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง และไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย 

"เมื่อไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย เพราะมีการใช้ฮอร์โมนอย่างถูกต้อง และเป็นระบบหลักประกันที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะลดความเสี่ยงด้านสุขภาพ ซึ่งมันจะไปลดเงินงบประมาณของประเทศที่ต้องใช้รักษาที่อาจจะเป็นเงินที่มากกว่าการส่งเสริมสุขภาพให้ LGBTQ+ ได้เข้าถึงและใช้ฮอร์โมนอย่างถูกต้องด้วย

“อยากให้สังคมได้เปิดใจ เพราะกลุ่มประชาชนทุกกลุ่มก็มีความเท่าเทียม และมีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ซึ่งสมควรที่จะได้รับการดูแลส่งเสริมสุขภาพเช่นกัน โดยเฉพาะการให้บริการส่งเสริมสุขภาพกลุ่ม LGBTQ+ ด้วยชุดสิทธิประโยชน์ฮอร์โมน ก็จะทำให้กลุ่ม LGBTQ+ มีความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการ และมีโอกาสในการเลือกใช้ฮอร์โมนหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องผ่านระบบที่มีคุณภาพและปลอดภัย" นายธีรศักดิ์ กล่าว 

รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สมาคมฟ้าสีรุ้งฯ กล่าวอีกว่า นอกจการใช้ยาฮอร์โมนสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ อย่างถูกต้องก็จำเป็นต้องมีการตรวจสภาพร่างกายให้มีความพร้อม รวมถึงวัดค่าระดับฮอร์โมนในร่างกายเพื่อใช้ฮอร์โมนที่มีทั้งแบบกิน ทา หรือฉีด ซึ่งหากเป็นชุดสิทธิประโยชน์ด้วย ก็จะช่วยให้กลุ่ม LGBTQ+ ได้เข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยเฉพาะกับการตรวจคัดกรองร่างกายและจิตใจได้มากขึ้น 

นายธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ เด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่ม LGBTQ+ และต้องการข้ามเพศ (Transgender) ทั้งจากหญิงเป็นชาย หรือชายเป็นหญิง ส่วนใหญ่มักเลือกใช้ยาฮอร์โมนอย่างไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีแหล่งองค์ความรู้กลางที่ถูกต้องเพื่อให้พวกเขาได้เข้าถึงข้อมูล ทำให้เด็กและเยาวชน เลือกจะใช้ฮอร์โมนตามที่รุ่นพี่บอก หรือที่ได้ยินมา ซึ่งก็เป็นการใช้ผิดๆ ถูกๆ 

รวมถึงเกือบทั้งหมดจะเลือกซื้อยาฮอร์โมนมาใช้เองผ่านร้านขายยาทั่วไป ซึ่งหากโชคดีก็อาจได้เจอเภสัชกรที่คอยแนะนำการใช้ฮอร์โมนอย่างถูกต้องให้ หรือบางรายอาจไม่เจอเภสัชกรให้คำแนะนำ ก็ใช้กันตามความเข้าใจของตัวเอง 

"ส่วนใหญ่น้องๆ ข้ามเพศโดยเฉพาะจากชายเป็นหญิง ก็ใช้ฮอร์โมนตามตัวแม่ หรือรุ่นพี่บอกต่อกันมา กินย้อนเข็มบ้าง หรือบอกให้กินเม็ดเดียวก็กินเยอะเกินไปหมดแผง เพราะกลัวไม่ละมุน ก็มีผลกระทบต่อร่างกาย"  รองผู้อำนวยนการสำนักนโยบายและแผน สมาคมฟ้าสีรุ้งฯ ระบุ

นายธีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพราะฮอร์โมนถ้าใช้ไม่ถูกต้อง จะมีผลต่อตับ การทำงานของไต ลิ่มเลือดอุดตัน ปอดอุดตัน ซึ่งยังไม่รวมผลกระทบทางด้านจิตใจด้วย ดังนั้น การใช้ฮอร์โมนจึงสำคัญสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ ที่ต้องใช้อย่างถูกต้อง 

ทั้งนี้ ในส่วนของสมาคมฟ้าสีรุ้งฯ ก็มีหน่วยบริการที่เป็นหน่วยบริการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะคลินิกหน่วยส่งต่อเทคนิคการแพทย์ พร้อมกับให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี แต่ที่ผ่านมา ก็มีกลุ่ม LGBTQ+ ก็เข้ามาขอคำแนะนำการใช้ฮอร์โมนบ้างเช่นกัน ซึ่งหน่วยก็ให้บริการตรวจวัดระดับฮอร์โมนและแนะนำการใช้อย่างถูกต้องให้ และหากกลุ่ม LGBTQ+ ต้องการคำแนะนำการใช้ฮอร์โมนก็สามารถประสานมายังสมาคมฟ้าสีรุ้งฯ ได้