6 องค์กรผนึกความร่วมมือ “การพัฒนาระบบบริการด้านเภสัชกรรม โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการด้านสาธารณสุข” รุกงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ลดความแออัด เชื่อมต่อและส่งต่อผู้ป่วย เพื่อให้เกิดระบบเครือข่ายของการดูแลประชาชนตั้งแต่ระดับปฐมภูมิโดยร้านยา จนถึงระดับตติยภูมิในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา สภาเภสัชกรรมจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การพัฒนาระบบบริการด้านเภสัชกรรมโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริการด้านสาธารณสุข” ระหว่าง 6 องค์กร ได้แก่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สภาเภสัชกรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ มูลนิธิเภสัชกรรมชุมชน ที่ห้องประชุมวชิรเวช อาคารมหิตลาธิเบศร แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข
โดยมีผู้แทนหน่วยงานร่วมลงนาม ดังนี้ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. นพ.สุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม. ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และ ภก.ธีรวุฒิ พงศ์เศรษฐไพศาล ประธานมูลนิธิเภสัชกรรม
รศ.พิเศษ ภก.กิตติ กล่าวว่า ความร่วมมือของ 6 องค์กรครั้งนี้ เพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี และระบบบริการที่สนับสนุนงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ลดความแออัดในโรงพยาบาล เชื่อมต่อและส่งต่อผู้ป่วย ให้เกิดเป็นระบบเครือข่ายในการดูแลประชาชนตั้งแต่ระดับปฐมภูมิโดยร้านยาจนถึงระดับตติยภูมิในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้จัดการข้อมูลเชื่อมโยงการบริการด้านเภสัชกรรมกับทุกส่วน รวมถึงการผลักดันให้เกิดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในระบบบริการสาธารณสุขที่ทันสมัย อันเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า เภสัชกรรมเป็นหนึ่งในวิชาชีพระบบสุขภาพที่มีส่วนร่วมดูแลประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมายังได้เข้ามามีบทบาทให้บริการภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท ทั้งในส่วนบริการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค รวมถึงการดูแลผู้ป่วยโควิด19 กลุ่มสีเขียวในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาด ที่ต่อยอดสู่การดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 กลุ่มอาการ ทำให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองสามารถเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น โดยการดำเนินการข้างต้นนี้ที่ผ่านมา สปสช. ได้มีการประสานความร่วมมือกับ สภาเภสัชกรรม และ สวทช. ในการนำเทคโนโลยี A-MED Care Pharma มาบริหารจัดการการบริการ
สำหรับความร่วมมือในวันนี้จะเป็นก้าวหนึ่งของการต่อยอดการพัฒนาระบบการในบริการด้านเภสัชกรรมและนวัตกรรม โดย สปสช. พร้อมให้ความร่วมมือดำเนินการทั้งในด้านข้อมูล การผลักดันหน่วยบริการให้นำระบบการให้บริการด้านเภสัชกรรมและนวัตกรรมบริการด้านการสาธารณสุขไปใช้ประโยชน์ และให้การสนับสนุนงบประมาณ ตามนโยบาย สปสช.
ดร.อดิสร กล่าวว่า สวทช. มีเป้าหมายที่มุ่งมั่นนำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างฐานรากสำคัญด้านเทคโนโลยีของประเทศ โดย สวทช. ตระหนักอย่างยิ่งถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีระบบบริการด้านเภสัชกรรมและสาธารณสุขที่มาประยุกต์ใช้ในการดูแลประชาชนและผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ จึงสนับสนุนเทคโนโลยีในการพัฒนาระบบการให้บริการด้านเภสัชกรรมและนวัตกรรมบริการด้านสาธารณสุข รวมทั้งให้ข้อมูลความต้องการระหว่างกัน เพื่อพัฒนาระบบบริการดังกล่าว ให้หน่วยบริการนำเทคโนโลยีพัฒนาระบบการให้บริการทั้งด้านเภสัชกรรมและนวัตกรรมบริการด้านการสาธารณสุขไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง ทั้งนี้ สวทช. พร้อมสนับสนุนบุคลากร ทรัพยากร ภายใต้กรอบพันธกิจของหน่วยงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนการให้บริการด้านเภสัชกรรมและด้านการสาธารณสุขของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งช่วยขยายผลการใช้งานในวงกว้างเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ทั่วถึงและเท่าเทียมต่อไป
ดร.นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการยกระดับการดำเนินงานระหว่าง 6 หน่วยงาน เพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพ การป้องกันและรักษาโรค โดยใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดเครือข่ายเชื่อมต่อและส่งต่อผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ระดับปฐมภูมิ คือร้านยาจนถึงระดับตติยภูมิคือโรงพยาบาล โดยมุ่งเน้นการป้องกันและรักษาโรค โดยเฉพาะที่เกิดจากยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากคนสูบบุหรี่แม้สูบไม่ทุกวัน จะมีความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ทั้งนี้ สสส. มีเครือข่ายร้านยาพาเลิกบุหรี่ 386 ร้านทั่วประเทศ และพัฒนาระบบบริการเภสัชกรรมทางไกลที่พร้อมจะสนับสนุนความร่วมมือการสร้างเสริมสุขภาพและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกบุหรี่ สุรา และการจัดการปัญหาการใช้ยา เพื่อให้คนไทยมีสุขภาวะดี ปลอดภัยจากควันบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- 220 views