ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“กรมบัญชีกลาง” ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย “โรคมะเร็งและโลหิตวิทยา” ที่จำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง


..กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง ปฏิบัติราชการแทน รมว.คลัง ลงนามในหนังสือเรื่อง “ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง” เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2565 ถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เลขาธิการ ผู้อำนวยการ อธิการบดี ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการสถานพยาบาลของราชการ โดยให้มีผลใช้บังคับสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑๕ ก.ค. 2565

สำหรับสาระสำคัญของหนังสือฉบับดังกล่าว ระบุถึง การใช้อำนาจตามมาตรา 8 วรรคหนึ่ง (1) และวรรคสอง แห่ง พ.ร.ฎ.เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดำเนินการเพื่อให้ผู้ป่วย (ผู้ใช้สิทธิสวัสดิการข้าราชการ) ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล

ทั้งนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลางโดยได้รับมอบหมายอำนาจจาก รมว.คลัง จึงเห็นควรดำเนินการ ดังนี้ 1. ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายาในโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา (ระบบ OCPA) รายการยา Abiraterone/Enzalutamide ซึ่งใช้รักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก

2. กำหนดเพิ่มเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายา Abiraterone 250 มิลลิกรัม ในการรักษาโรคมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแพร่กระจาย ในระบบ OCPA 3. กำหนดปริมาณการเบิกยา Abiraterone หรือ Enzalutamide โดยให้ปริมาณการเบิกจ่ายต่อครั้งไม่เกินจำนวนยาที่ใช้ใน 2 เดือน

4. กำหนดให้เบิกจ่ายค่ายา Abiraterone ได้ไม่เกินอัตราที่กำหนด ดังนี้ (4.1) ยา Abiraterone ความแรง 250 มิลลิกรัม อัตรา 160 บาทต่อเม็ด (4.2) ยา Abiraterone ความแรง 500 มิลลิกรัม อัตรา 320 บาทต่อเม็ด

อ่านหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย “โรคมะเร็งและโลหิตวิทยา” ได้ที่นี่

Attach Files