ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสุขภาพจิต ชวนตระหนักถึงภาวะ “New Year’s Blues” ซึมเศร้าช่วงปีใหม่ หลังเกิดความผิดหวัง-กังวลจากเหตุการณ์รอบปี เตือนประชาชนหมั่นสำรวจอารมณ์ตนเอง-คนรอบข้าง แนะใช้เวลากับครอบครัว-ตั้งเป้าหมายปีหน้าอย่างเหมาะสม


พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในเทศกาลปีใหม่นั้นเป็นช่วงที่กรมสุขภาพจิต ให้ความสำคัญและเฝ้าระวังด้านสุขภาพจิตของประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ แม้คนส่วนใหญ่จะมีความสุขเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่เทศกาลรื่นเริง แต่คนจำนวนหนึ่งจะเริ่มทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลอดปีที่ผ่านมา หรือได้รับฟังข่าวสารที่มีการสรุปเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาและเกิดความผิดหวัง กังวล หรือซึมเศร้าขึ้นได้

สำหรับภาวะ “New Year’s Blues” หรือ ภาวะซึมเศร้าช่วงปีใหม่ เป็นภาวะที่กรมสุขภาพจิตอยากให้คนไทยตระหนักถึงในช่วงนี้ แม้ไม่ได้เป็นการวินิจฉัยทางจิตเวช แต่เป็นภาวะทางสุขภาพจิตที่ได้รับการพูดถึงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ที่กำลังประสบภาวะดังกล่าวในช่วงหยุดยาววันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ จะมีอาการได้แก่ ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ รู้สึกไร้ค่า รู้สึกสิ้นหวัง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มีปัญหาเรื่องการกิน หรือการนอน ในบางรายอาจมีความคิดไม่อยากอยู่หรืออยากทำร้ายตัวเองได้ ซึ่งอาการต่างๆ เหล่านี้อาจเกิดต่อเนื่องไปยังช่วงต้นเดือน ม.ค. แม้สิ้นสุดวันหยุดยาวไปแล้วก็ตาม

พญ.อัมพร กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา อาจทำให้หลายคนเกิดความเครียดเรื้อรังสะสม รวมถึงมีอุปสรรคปัญหาด้านต่างๆ เกิดขึ้น ทั้งสุขภาพกาย ปัญหาจากการทำงาน และปัญหาความสัมพันธ์กับผู้อื่น หลายคนไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ตามสิ่งที่ตนเองเคยคาดหวังและวางแผนไว้ ก่อให้เกิดความรู้สึกล้มเหลว ความทรงจำด้านลบ การสูญเสีย และความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตนเอง

นอกจากนี้กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่เดิม อาจจะมีความเสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพจิตเพิ่มยิ่งขึ้นได้ในช่วงนี้ เช่น คนที่มีภาวะซึมเศร้าอยู่เดิมอาจมีอาการเศร้ารุนแรงมากขึ้น และช่วงวันหยุดเทศกาลไม่สามารถสร้างความสุขให้ได้ ขณะเดียวกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่สิ้นสุดลง ย่อมเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางไปพบคนในครอบครัว หรือไม่ได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันในช่วงปีใหม่ ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างมีข้อจำกัด อาจส่งผลให้เกิดความเครียด ความรู้สึกเหงา และความเศร้าที่มากขึ้นได้อีกด้วย

"กรมสุขภาพจิต อยากรณรงค์ให้คนไทยทุกคนช่วยกันป้องกันตนเองและคนใกล้ชิดไม่ให้เข้าสู่ภาวะ New Year’s Blues ซึ่งสามารถทำได้โดยหมั่นสำรวจอารมณ์ของตนเองและคนรอบข้าง ทั้งในระหว่างช่วงหยุดยาวและหลังหยุดยาว หรือประเมินตัวเองผ่าน www.วัดใจ.com และมีการมองเห็นคุณค่าของตนและสิ่งดีๆ ที่ตนเองได้ทำไว้ในช่วงที่ผ่านมา เช่น การมองหาสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้ พลังใจที่เกิดขึ้นในตนเอง การไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาและอุปสรรคต่างๆ รวมถึงการแบ่งปันและช่วยเหลือผู้อื่น" พญ.อัมพร กล่าว

พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ควรใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวหรือคนสนิท หรือหากไม่สามารถเดินทางไปพบคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้ ก็สามารถเรียนรู้วิธีใช้ช่องทางออนไลน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้างเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหากรู้สึกว่าตนเองอาจมีภาวะ New Year’s Blues สามารถเริ่มปรึกษาพูดคุยกับใครสักคน เช่น คนใกล้ชิดหรือสมาชิกในครอบครัว รวมถึงสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่ LINE@1323forthai หรือปรึกษาจิตแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไป

อนึ่ง จากการสำรวจกิจกรรม “วัดใจ” ในระบบ Mental Health Check In โดยกรมสุขภาพจิต พบว่า ในช่วงเดือนธันวาคม 2564 ประชาชนมีความเครียดสูง 5.24% และมีความเสี่ยงซึมเศร้า 6.72% ซึ่งมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ประชาชนมีความเครียดสูง 8.41% และมีความเสี่ยงซึมเศร้า 10.60% แต่สถิติดังกล่าวของเดือนธันวาคมนี้ ยังไม่รวมช่วงวันหยุดยาวขึ้นปีใหม่