ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมว.สธ. ประกาศผลักดันออกกฎหมายเฉพาะ จ่ายค่าตอบแทน อสม. เพื่อความยั่งยืน หลังที่ผ่านมาต้องใช้มติ ครม. 


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2567 ในพิธีเปิด "กุฏิชีวาภิบาลจังหวัดสุโขทัย" ตอนหนึ่งว่า เบื้องต้นได้หารือกับปลัด สธ.ว่าจะพิจารณาออกกฎหมาย เป็น พ.ร.บ. สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อให้ อสม. มีค่าตอบแทน และมีความยั่งยืน โดยไม่ต้องกังวลว่า ในอนาคตจะได้เดือนละ 2,000 บาทหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีกฎหมาย ก็ต้องใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการอนุมัติ ซึ่งถ้าไม่ให้ อสม. ก็จะไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกฎหมายแล้ว ก็จะเกิดความยั่งยืน ดังนั้นจะช่วยผลักดันให้ อสม. เกิดความยั่งยืนต่อไป

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการกุฏิชีวาภิบาลของ สธ. ได้ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือพระสงฆ์อาพาธ เพราะจากข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปี 2564 มีพระสงฆ์ สามเณร จำนวน 241,368 รูป ซึ่งพระสงฆ์ในจำนวนนี้ มากกว่า 50% เป็นผู้สูงอายุ และมีพระอาพาธระยะสุดท้าย ถึงจำนวน 9,655 รูป โดยที่ผ่านมา พระอาพาธติดเตียง หรือ พระอาพาธระยะท้าย มีความประสงค์จะกลับวัด แต่สถานที่รองรับพระอาพาธมีน้อยมาก ซึ่งวัดก็ยังขาดบุคลากรผู้ดูแลประจำวัด รวมถึงญาติที่รับไปดูแลที่บ้าน ส่วนใหญ่ก็มักต้องลาสิกขา

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สธ. โดยกรมการแพทย์ จึงดำเนินโครงการกุฏิชีวาภิบาล ตั้งแต่ปี 2567 ด้วยงบประมาณ 4.3 ล้านบาท เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระอาพาธระยะท้าย ซึ่งเริ่มต้นโครงการ มีการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบแล้ว จำนวน 5 แห่ง คือ 1. วัดทับคล้อ จ.พิจิตร เขตสุขภาพที่ 3 , 2. วัดหนองกะพ้อ จ.สระแก้ว เขตสุขภาพที่ 6 , 3. วัดท่าประชุม จ.ขอนแก่น เขตสุขภาพที่ 7 , 4. วัดบุญนารอบ จ.นครศรีธรรมราช เขตสุขภาพที่ 11 และ 5. วัดห้วยยอด จ.ตรัง เขตสุขภาพที่ 12 โดยโครงการมีเป้าหมาย จัดตั้งกุฏิชีวาภิบาล ให้ครอบคลุมทั้ง 12 เขตสุขภาพ

โครงการนี้ จะมีการพัฒนาศักยภาพพระคิลานุปัฏฐาก หรือ พระดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในการช่วยดูแลพระอาพาธ โดยขณะนี้ มีพระคิลานุปัฏฐาก ที่ผ่านมาอบรมแล้ว คือ หลักสูตรพระบริบาลภิกษุไข้ ระยะเวลา 35 ชั่วโมง จำนวน 10,13 รูป หลักสูตรกรมอนามัย ระยะเวลา 70 ชั่วโมง จำนวน 13,414 รูป และหลักสูตรการดูแลพระอาพาธระยะท้าย กรมการแพทย์ ระยะเวลา 140 ชั่วโมงจำนวน 363 รูป

ในส่วนของจังหวัดสุโขทัย มีการเปิดกุฏิชีวาภิบาล ครบทั้ง 9 อำเภอ 11 แห่ง รวม 17 เตียงแล้ว และล่าสุดวันนี้ มีการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาล อีก 1 แห่ง คือ ที่วัดราษฎร์ศรัทธาราม ต.ทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย จำนวน 4 เตียง ทำให้ปัจจุบัน จังหวัดสุโขทัย มีกุฏิชีวาภิบาล จำนวน 12 แห่ง ครอบคลุมทั้ง 9 อำเภอ มี 21 เตียง ซึ่งถือว่า เพียงพอ เพราะขณะนี้ มีพระสงฆ์อาพาธ เพียงจำนวน 2 เตียง และมีการอบรมพระคิลานุปัฏฐาก ในจังหวัดสุโขทัย แล้ว 278 รูป 

นอกจากนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดสุโขทัย ยังไม่นิ่งนอนใจ ได้มีการตรวจสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ แล้วจำนวน 1,802 รูป พบว่า เป็นกลุ่มปกติ 1,290 รูป กลุ่มป่วย 512 รูป และอาพาธติดเตียง 11 รูป จึงถือได้ว่า โครงการนี้ มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ที่จะช่วยรองรับดูแลพระสงฆ์ที่อาพาธติดเตียง หรือ พระอาพาธระยะท้าย เพื่อให้มีคนดูแล โดยไม่ต้องถูกทอดทิ้ง