ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัด สธ. เผย การเบิกจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัย "โควิด" หน่วยงานนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข คืบหน้าไป 67% ที่เหลือยังติดขัดเรื่องการส่งเอกสารล่าช้า เอกสารไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ พร้อมเร่งรัดเบิกจ่ายภายในเดือน พ.ค.นี้ เพื่อให้เสนอของบประมาณรอบสุดท้ายของครึ่งเดือนหลัง มิ.ย. - ก.ย. 2565 ได้ต่อไป


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานการประชุมติดตามและเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 รายการ ‘ค่าตอบแทนเสี่ยงภัย’ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567

นพ.โอภาส กล่าวว่า ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน ทั้งในสังกัดและนอกสังกัด สธ. ช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 - ครึ่งเดือนแรกมิถุนายน 2565 จากงบกลาง วงเงิน 2,995.95 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานสังกัด สธ. วงเงิน 1,362.76 ล้านบาท ได้เบิกจ่ายเรียบร้อยแล้ว คงเหลือส่วนของหน่วยงานนอกสังกัด สธ. วงเงิน 1,633.19 ล้านบาท จำนวน 26 หน่วยงาน ที่มีความคืบหน้าในระดับหนึ่งแต่ยังดำเนินการได้ไม่ครบถ้วน 

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 28 มี.ค. 2567 หน่วยงานนอกสังกัด สธ. มีการเบิกจ่ายค่าเสี่ยงภัยโควิด-19 ไปแล้ว 1,099.82 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.34 คงเหลือ 533.37 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.66 โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เบิกจ่ายแล้ว ร้อยละ 68.03 กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 63.92 กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 69.05 กระทรวงยุติธรรม ร้อยละ 12.81 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 99.87 สภากาชาดไทย ร้อยละ 97.31 และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร้อยละ 89.04 โดยสาเหตุที่ทำให้ยังไม่สามารถเบิกจ่ายได้ครบเนื่องจากการส่งเอกสารล่าช้า เอกสารไม่ตรงตามหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย ทำให้ต้องส่งกลับไปแก้ไข 

"กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานเบิกจ่ายงบประมาณจึงมีการประชุมเพื่อชี้แจงการแก้ไขเอกสาร ข้อมูลการเบิกจ่ายให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา โดยกรณีต้องขยายเวลาเบิกจ่ายเพิ่ม ต้องเร่งเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2567 รวมทั้งพิจารณาทบทวนการเสนอคำของบประมาณค่าตอบแทนเสี่ยงภัยในส่วนที่เหลือระหว่างครึ่งเดือนหลังของมิถุนายน - กันยายน 2565 วงเงิน 3,749 ล้านบาท ซึ่งต้องรอให้การเบิกจ่ายรอบนี้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะสามารถดำเนินการเสนอของบประมาณรอบใหม่ได้" นพ.โอภาส กล่าว