ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เรือนจำกลางบางขวาง ใช้กลไก “กปท.” เทศบาลนครนนทบุรี ตรวจคัดกรองสุขภาพสายตาเชิงรุกแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวาง เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ต้องขังให้ดีขึ้น


ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 4 สระบุรี ดร.ประพจน์ บุญมี ผู้อำนวยการกลุ่ม สปสช.เขต 4 สระบุรี และคณะเทศบาลนครนนทบุรี นายกสมนึก  ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ร่วมพิธีเปิดโครงการหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ ตรวจคัดกรองและแก้ไขความผิดปกติในการมองเห็นของผู้มีปัญหาด้านสายตา โดยมี นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เป็นประธานเปิดโครงการฯ และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเรือนจำบางขวาง พร้อมด้วยเทศบาลนครนนทบุรีร่วมกิจกรรม กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ต้องขังจำนวน 295 คนเข้าร่วมโครงการตรวจคัดกรองสายตา

1

2

นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง กล่าวว่า โรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ปัจจุบันมีผู้ต้องขังชายในการดูแล 4,938 คน (ข้อมูล 14 มี.ค. 66) ซึ่งเรือนจำกลางบางขวางเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ควบคุมผู้ต้องขังชายที่มีกำหนดโทษสูงตั้งแต่ 15 ปี ถึงโทษประหารชีวิต ทำให้ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวางต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในเรือนจำเป็นเวลานาน จากวัยหนุ่มก้าวเข้าสู่วัยกลางคนและวัยผู้สูงอายุ เมื่ออายุมากขึ้นทำให้มีปัญหาสุขภาพด้านดวงตาและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ จึงมีการพัฒนาระบบบริการจัดการโรคทางตาให้มีคุณภาพและครอบคลุมการดูแลผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มป่วยโรคทางตา
 
ทั้งนี้ ในเรือนจำบางขวางมีผู้ต้องขังที่มีปัญหาสายตาและการมองเห็น 295 คน แบ่งเป็นผู้ที่สายตายาว  170 คน สายตาสั้น 125 คน ซึ่งตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ได้เน้นหลักการสร้างเสริมสุขภาพนำการรักษา และมีนโยบายให้ประชาชนเข้าถึงบริการอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน รวมถึงให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสุขภาพ และเพื่อเป็นการดูแลผู้ต้องขังที่มีปัญหาด้านสายตา โรงพยาบาลเรือนจำฯ จึงจัดทำ “โครงการตรวจคัดกรองและแก้ไขความผิดปกติในการมองเห็นของผู้มีปัญหาด้านสายตา” โดยวิธีการคัดกรองและค้นหาผู้ที่มีปัญหาสายตาให้ได้รับการการแก้ไขปัญหาทางสายตาได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ทันท่วงที โดยรการสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) เทศบาลนครนนทบุรี

2

5

นายกสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวว่า กปท.เทศบาลนครนนทบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณ 108,150 บาท ตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเพื่อให้โรงพยาบาลเรือนจำบางขวางจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองการมองเห็นของผู้ต้องขังในเรือนจำ ตั้งแต่การค้นหา ตรวจคัดกรอง กรณีพบความผิดปกติจะได้รับการส่งต่อเพื่อรักษาอย่างทันที โดยผู้มีปัญหาทางสายตาก็จะได้รับแว่นสายตาเพื่อช่วยให้มองเห็นดีขึ้น มีคุณภาพที่ชีวิตที่ดี พร้อมมีการกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาได้ทราบถึงวิธีการป้องกัน วิธีการถนอมสายตา และการใช้แว่นตาและเก็บรักษาแว่นตาอย่างถูกวิธี

2

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นกลุ่มเปราะบางในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ด้วยข้อจำกัดที่ต้องได้รับการควบคุมตัวในเรือนจำ ทำให้การดูแลเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการสุขภาพ นอกจากการดำเนินงานในส่วนเรือนจำและสถานพยาบาลในเรือนจำที่ได้มีการจัดระบบการรักษาพยาบาลที่ดีแล้ว ยังต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก เพื่อร่วมกันดูแลให้ผู้ต้องขังเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด รวมถึงบริการตรวจคัดกรองและแก้ไขปัญหาสายตาทีผิดปกตินี้ ซึ่งกิจกรรมมอบแว่นสายตาให้กับผู้ต้องขังในโครงการตรวจคัดกรองและแก้ไขความผิดปกติในการมองเห็นของผู้ต้องขังในวันนี้ นอกจากเป็นตัวอย่างของความร่วมมืออันดีระหว่างเรือนจำกลางบางขวางและเทศบาลนครนนทบุรีที่ตระหนักถึงสุขภาพของผู้ต้องขังแล้ว ยังเป็นแบบอย่างของการดำเนินงานกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น ในพื้นที่อื่นต่อไป 

3

2

“วันนี้ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวาง 295 คน ที่มีความผิดปกติของสายตาจะได้รับมอบแว่นตาที่ช่วยให้สายตามกลับมามองเห็นได้ชัดเจน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยงบประมาณสนับสนุนจาก กปท.เทศบาลนครนนทบุรี โครงการนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความร่วมมืออันดีจากโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวางที่เป็นผู้เสนอโครงการ และเทศบาลนครนนทบุรีที่มองเห็นและตระหนักต่อปัญหาสุขภาพของผู้ต้องขังในเรือนจำ ที่นำมาสู่การขับเคลื่อนร่วมกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมด้านสุขภาพในประเทศ” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว   

3

นพ.สาธิต  ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช.เขต 4 สระบุรี กล่าวว่า พื้นที่เขต 4  สระบุรี มีสถานพยาบาลเรือนจำ 18 แห่ง ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำและรับส่งต่อทั่วไป 1 แห่ง คือสถานพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง และ 17 แห่ง เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ โดยแบ่งเป็น จ.นนทบุรี 2 แห่ง  จ.นครนายก 1 แห่ง ปทุมธานี 6 แห่ง อยุธยา 4 แห่ง ลพบุรี 2 แห่ง สระบุรี 1 แห่ง และอ่างทอง 1 แห่ง โดยรวมมีผู้ต้องขังในเรือนจำ 29,367 คน จากจำนวนผู้ตัองขังในเรือนจำทั้งประเทศ 260,810 คน (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2566)
  ส่วนการใช้กลไก “กปท.” ช่วยหนุนเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพด้านสายตา โดยในปีงบประมาณ 2566 ภาพรวมทั้งประเทศมี 190 โครงการ เป็นงบประมาณ 23.89 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจคัดกรอง 1.2 แสนคน โดยในพื้นที่เขต 4 สระบุรี มี 30 โครงการ เป็นงบประมาณ 8.29 ล้านบาท มีกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจคัดกรอง  4.1 หมื่นคน  เฉพาะที่จังหวัดนนทบุรี มี 5 โครงการ งบประมาณ 1.38 ล้านบาท กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการตรวจคัดกรอง 6.9 พันคน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคทางสายตา มองว่ากลไก กปท. เป็นส่วนที่ช่วยหนุนเสริมระบบบริการทำให้ประชาชนเข้าถึงการคัดกรองและป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี อย่างในวันนี้ที่เทศบาลนครนนทบุรี ได้เข้ามาร่วมหนุนเสริมโรงพยาบาลเรือนจำบางขวาง ให้ผู้ต้องขังเข้าถึงการตรวจสายตามากขึ้น

3