สปสช. ตั้ง “คณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม” ดึงผู้เชี่ยวชาญทันตกรรม รุกพัฒนาระบบ แก้อุปสรรค ดูแลสุขภาพช่องปาก “ผู้ใช้สิทธิบัตรทอง” เปิดประชุมนัดแรก ร่วมวิเคราะห์สถานการณ์ ปี 2564 คนไทยเข้าถึงบริการทันตกรรม ร้อยละ 9.9 ผู้มีสิทธิบัตรทองใช้สิทธิรับบริการมากสุด ร้อยละ 36.6 ขณะที่ ร้อยละ 28 เป็นผู้มีสิทธิแต่ไม่ใช้สิทธิในการรับบริการ เหตุรอคิวนาน สิทธิไม่ครอบคลุม ติดรับบริการในเวลาราชการ เป็นต้น
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะประธานคณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม กล่าวว่า การดูแลสุขภาพฟันและช่องปาก ทั้งการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค การรักษาและฟื้นฟู เป็นบริการที่จำเป็นสำหรับทุกกลุ่มวัย ซึ่งภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท มีสิทธิประโยชน์ด้านบริการทันตกรรมสำหรับประชาชนทุกกลุ่มวัยเพื่อให้เกิดการเข้าถึงบริการภายใต้สิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ที่ผ่านมา สปสช. ได้ตั้ง “คณะทำงานพัฒนาการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรม” ประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมเป็นคณะทำงานฯ
ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ชุดนี้ มีหน้าที่จัดทำข้อเสนอเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการทันตกรรมในด้านต่างๆ เช่น รูปแบบการบริการหรือนวัตกรรมบริการด้านทันตกรรม กลไกการจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข รูปแบบและวิธีการตรวจสอบการประเมินผล การประชาสัมพันธ์ และการมีส่วนร่วมของผุ้ประกอบอาชีพด้านสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้ร่วมประชุมเป็นครั้งแรกและได้ร่วมวิเคราะห์สถานการณ์การเข้าถึงบริการทันตกรรมของประเทศ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเข้าถึงบริการต่อไป
พญ.วรางคนา เวชวิธี ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อมูลอ้างอิงผลการการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2564 โดยการสำรวจประชากรที่มารับบริการทันตกรรม พ.ศ. 2556-2564 พบว่า ประชาชนเข้าถึงบริการทันตกรรมสูงสุดในปี.2564 ร้อยละ 9.9 และน้อยสุดในปี 2558 ร้อยละ 8,1 การรับบริการมีทั้งขูดหินน้ำลาย ถอนฟัน อุดฟัน ตรวจสุขภาพช่องปาก ใส่ฟันเทียม จัดฟัน เคลือมหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ โดยประชาชนในเขต กรุงเทพมหานครเข้าถึงบริการมากที่สุดร้อยละ 51.8 และเมื่อแยกการให้บริการตามประเภทของสถานพยาบาลจะเป็นการให้บริการโดยสถานพยาบาลภาครัฐ ร้อยละ 45.6 และสถานพยาบาลเอกชน ร้อยละ 42.8
ผลการเข้าถึงบริการทันตกรรมเมื่อแยกตามสิทธิประกันสุขภาพ พบว่า สิทธิสวัสดิการข้าราชการเข้าถึงมากที่สุด ร้อยละ 15.4 รองลงมาคือ สิทธิประกันสังคม ร้อยละ 12 และสิทธิหลักประกันสุขภาพ(บัตรทอง) ร้อยละ 7.8 ตามลำดับ แต่เมื่อเปรียบเทียบการมีสิทธิประกันสุขภาพและใช้บริการตามสิทธิ พบว่า ผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการทันตกรรมสูงสุด ร้อยละ 36.6 รองลงมาเป็นสิทธิข้าราชการ ร้อยละ 24 และสิทธิประกันสังคม ร้อยละ 8.7 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามยังมีผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพร้อยละ 28 ที่ไม่ใช้สิทธิในการเข้ารับบริการ โดยสาเหตุของการไม่ไปใช้บริการตามสิทธิสูงสุด คือ การให้บริการช้าและรอคิวนาน ร้อยละ 42.7 รองลงมาคือ สิทธิบริการไม่ครอบคลุม ร้อยละ 29.8 ไม่สะดวกไปในเวลาทำการ ร้อยละ 16.4 และสถานพยาบาลอยู่ไกล ไม่สะดวก ร้อยละ 3.7 ตามลำดับ
“จากข้อมูลที่ปรากฏนี้จำต้องมีการบริหารจัดการด้วยกลไกต่างๆ เช่น เพิ่มช่องทางเข้าถึงบริการได้ มีสถานพยาบาลบริการเพิ่ม มีระบบนัดหมายที่ดี สิทธิประโยชน์ครอบคลุม และให้บริการที่ต่อเนื่อง เป็นต้น ซึ่งจะเป็นกลไกเชื่อมต่อกับผู้รับบริการที่ต้องมีการรับรู้ข้อมูล เพื่อให้เกิดการเข้าถึงสิทธิและบริการ” ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กล่าว
ด้าน ทพ.สันติ ศริวัฒนไพศาล ผอ.สปสช. เขต 2 พิษณุโลก กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ด้านบริการทันตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แบ่งการให้บริการออกเป็น 3 ส่วนได้แก่ 1) บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกันแยกตามกลุ่มวัยภายใต้ประกาศฯประเภทและขอบเขตของบริการสาธารณสุข พ.ศ.2565 2) บริการทันตกรรมรักษาและทันตกรรมฟื้นฟู โดยแบ่งการให้บริการตามรูปแบบการชดเชยค่าบริการได้แก่ ทันตกรรมรักษาเหมาจ่าย ทันตกรรมรักษาตามรายการ OP Anywhere บริการกรณีเฉพาะ Central Reimbursement : CR 3) นวัตกรรมการให้บริการด้านทันตกรรม ได้แก่ บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกันเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
อย่างไรก็ตามแม้มีสิทธิประโยชน์ให้บริการครอบคลุมแล้ว แต่รายงานผลการสำรวจสภาวะทันตสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 8 พบว่า ในกลุ่มอายุ 35-44 ปี มีผู้ที่เป็นฟันผุถึงร้อยละ 43.3 ฟันถอน ร้อยละ 85.3 และฟันอุ ร้อยละ 46.6 สะท้อนให้เห็นการเข้าถึงการรักษา เช่นเดียวกับกลุ่มอายุ 60-74 ปี ที่ฟันผุร้อยละ 52.6 ฟันถอน ร้อยละ 96.8 และฟันอุด ร้อยละ 22.5 ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมของประชาชนยังคงมีปัญหา จะทำอย่างไรให้ผู้ใช้สิทธิเข้าถึงบริการได้ เหล่านี้เป็นโจทย์ที่คณะทำงานฯ ต้องมาร่วมหารือเพื่อหาทางออกในการดูแลประชาชน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
• Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
- 228 views