ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กองทุน กปท.เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย สนับสนุนงบโครงการ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่” แถมได้แรงเสริมจากเอกชนในพื้นที่ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชน “สปสช.” คาดปี 66 มีประชาชนสิทธิบัตรทองใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 53 ล้านชิ้น ย้ำผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ แต่ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะ-อุจาระไม่ได้ ได้สิทธิด้วย 


วันที่ 12 ม.ค.2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.กวี วีระเศษฐกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี ลงพื้นที่รับฟังการดำเนินงานโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย และผ้าอ้อมทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง และบุคคลที่มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ พร้อมกับเยี่ยมผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง 2 ราย โดยรายแรกเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เพศหญิง อายุ 91 ปี ส่วนรายที่ 2 เป็นผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 44 ปี ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไต ในพื้นที่เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย 

4

1

นายเฉลิม โยธามาศ นายกเทศมนตรีตำบลเอราวัณ เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย ร่วมกับ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ 3 แห่งในพื้นที่รับผิดชอบ คือ รพ.สต.หัวฝาย รพ.สต.พรประเสริฐ และ รพ.สต.โป่งศรีโทน ลงพื้นที่สำรวจบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงบุคคลมีค่าคะแนน ADL (ความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน) ระดับ 6 และมีภาวะกลั้นอุจาระ-ปัสสาวะไม่ได้ พบว่ามีจำนวน 36 คนที่กระจายอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลเอราวัณ และ รพ.สต.ทั้ง 3 แห่ง โดยทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรค อีกทั้งยังมีปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัวที่ไม่สามารถซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รถเข็น เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ป่วยและครอบครัวที่ต้องดูแลมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ตำบลเอราวัณ จ.เลย ได้อนุมติงบประมาณโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย และผ้าอ้อมทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง และบุคคลที่มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ จำนวน 15,722 บาท ซึ่งเป็นโครงการตามแนวทางการดำเนินงานของ สปสช. ขณะเดียวกัน ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน (กลุ่มโรงโม่หิน) ในพื้นที่ ที่มีกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ในโครงการคนเอราวัณ ไม่ทิ้งกัน ให้งบประมาณจัดซื้อผ้าอ้อม รถเข็น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้ป่วย ซึ่งผลดำเนินการพบว่า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงญาติของผู้ป่วยมีความพึงพอใจในโครงการ และสะท้อนว่าเป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชนอย่างมาก 

3

ทพ.กวี วีระเศษฐกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี กล่าวว่า การดำเนินโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ของ กปท.เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นถึงความสำเร็จของการดำเนินโครงการ อีกทั้งยังเห็นถึงการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งท้องถิ่น หน่วยบริการสาธารณสุข รวมไปถึงเอกชนในพื้นที่ที่เข้ามามีส่วนส่งเสริมสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ ผ่านโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย ที่ สปสช.ได้สนับสนุนให้มีการดำเนินการทุกพื้นที่ 

ทั้งนี้ การจัดหาผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย บริษัทที่จัดจำหน่ายสามารถเสนอราคาโดยตรงให้กับเทศบาล หรือท้องถิ่นได้เลย ซึ่ง สปสช.ได้กำหนดราคารับซื้อที่ไม่เกิน 9.50 บาท/ชิ้น ซึ่งเทศบาลตำบลเอราวัณ ได้พยายามหาข้อมูลของผู้จำหน่ายรอบด้าน เพื่อเร่งนำผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาให้กับประชาชนที่จำเป็นต้องใช้ เพราะเห็นถึงความสำคัญ และประโยชน์จากโครงการที่ประชาชนในพื้นที่จะได้รับ 

1

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บอร์ด สปสช. ได้ประชุมและมีมติเมื่อวันที่ 2 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา เห็นชอบให้บรรจุผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย ให้เป็นสิทธิประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขาพและป้องกันโรค ครอบคลุมประชานสิทธิหลักประกันสุขภาพ หรือสิทธิบัตรทอง โดยใช้งบประมาณจาก กปท. ที่ร่วมกันกับท้องถิ่น 

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงเท่านั้น หากแต่ผู้ป่วยทั่วไปที่ไม่สามารถกลั้นอุจจาระ-ปัสสาวะได้ ตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์และการประเมินของหน่วยบริการ ซึ่งจะได้รับผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่ายคนละไม่เกิน 3 ชิ้น/วัน ซึ่งจะช่วยให้บุคคลที่มีภาวะพึ่งพิงที่จำเป็นต้องผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับขับถ่าย ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ได้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้มากขึ้น 

“ผลจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา พบว่าในปี 2565 ที่เป็นปีแรกของการเริ่มโครงการ มีการแจกจ่ายผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่ายไปทั้งหมด 24 ล้านชิ้น และคาดว่าในปี 2566 จะมีการใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย ประมาณ 53 ล้านชิ้น” ทพ.อรรถพร กล่าวในตอนท้าย 

4

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ