ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“โรงพยาบาลระยอง” ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ โรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข ย้ำชัดสิ่งสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน “2P Safety  Hospital” ผู้บริหารต้องมองเห็นความสำคัญก่อน


นพ.สมบูรณ์ มะลิขาว รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง จ.ระยอง เปิดเผยในเวที “แลกเปลี่ยนประสบการณ์ รพ. 2P Safety Hospital” ภายในงาน Shared vision สู่การเป็น 2P Safety Hospital ซึ่งจัดโดยสถาบันรับรองคุณภาพสถานบริการ (สรพ.) เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 ตอนหนึ่งว่า การทำงานเรื่อง 2P Safety Hospital จะเป็นไม่ได้เลยถ้าผู้บริหารไม่เห็นความสำคัญ ฉะนั้นสิ่งแรกคือผู้บริหารต้องให้ความสำคัญก่อนจึงจะมองภาพต่างๆ ได้ออกและครอบคลุม

อย่างไรก็ดี เนื่องจากแต่ละโรงพยาบาลจะมีบริบทที่ไม่แตกต่างกัน จึงต้องนำหลักการไปประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับตัวเอง โดยต้องไม่ละทิ้งสาระสำคัญ นั่นคือ “Safety Culture” ซึ่งถือเป็นการสร้างเป้าหมายในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไม่ตำหนิกัน การสร้างประสบการณ์ร่วมกันทั้งผู้ป่วย และบุคลากร  

“ในส่วนของบุคลากร เมื่อทำโครงการ 2P Safety Hospital แล้ว ก็ทำให้เห็นความเกี่ยวข้องระหว่างคนไข้และบุคลากรชัดเจนขึ้น บุคลากรในองค์กรรู้สึกว่าตัวเองมีตัวตน มีส่วนร่วมในกระบวนการ Patient Flow มีเพื่อน ทั้งเพื่อนร่วมงาน-เพื่อนร่วมกระบวนการ ที่สำคัญคือมีคุณค่า มีส่วนในการทำให้การแก้ไขได้พัฒนาขึ้น” นพ.สมบูรณ์ กล่าว

นพ.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า มาถึงวันนี้ 2P Safety Hospital ทำให้มีการมองภาพความปลอดภัยเป็นระบบมากขึ้น มีการเชื่อมโยงทั้งงานและมิติคุณภาพ โรงพยาบาลระยองจึงเป็นโรงพยาบาลแรกๆ ที่ทำเรื่องรถพยาบาล Lane (Ambulance) และ Legal Issues มีการตรวจสภาพคนขับรถทุกคนที่ทำหน้าที่รับ-ส่ง ต่อผู้ป่วย ทั้งขาเข้าและขาออก ถ้าตรวจพบสภาพความดันสูง ตรวจแล้วไม่น่าไว้วางใจ คนขับรถดูอ่อนเพลีย ทางโรงพยาบาลก็จะมีการจัดที่นอนให้ ซึ่งเราได้ทำเรื่องนี้มา 7-8 ปีแล้ว

“อีกเรื่องที่เห็นได้ชัดคือเรื่องขวดฟอร์มาลีน เพราะโดยปกติแล้ว เวลาจะให้คนไข้เก็บเสมหะ ก็จะต้องให้ญาติไปเอาขวดฟอร์มาลีนที่แผนก Pathology แต่เนื่องจากการเก็บเสมหะต้องมีการพ่นไอน้ำ เพื่อให้เสมหะนุ่มตัว จึงมักเกิดความผิดพลาดขึ้นเพราะไม่มีฉลาก (label) นั่นทำให้ที่สุดแล้วเราได้ทำฉลากสารเคมีทุกชนิดในโรงพยาบาลที่มีการเคลื่อนย้ายระหว่างหน่วยงานขึ้น ซึ่งเป็นความสำเร็จที่อาจดูเล็ก แต่ในมุมคนทำงานมองว่านี่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่” นพ.สมบูรณ์ กล่าว

นพ.สมบูรณ์ กล่าวว่า การพัฒนาโครงการร่วมกับ สรพ. และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ทำให้เราพบว่า ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นภาครัฐเอกชน โรงพยาบาลขนาดเล็ก หรือขนาดใหญ่ มักจะมีคนที่มีความคิดดีๆ อยู่ บางความคิด-บางการกระทำน่าอัศจรรย์มาก บางความคิดบางการกระทำจะสำเร็จได้ต้องมีการแก้ไข มีการปรับแต่ง และมีพี่เลี้ยง

ฉะนั้น เมื่อโรงพยาบาลระยองได้รับโอกาสเข้าร่วมในโครงการ 2P Safety Hospital จึงไม่ปล่อยโอกาสไป ส่วนตัวมองว่าการลงทุนตรงนี้เป็นการลงทุนที่ไม่มาก ลงทุนไปสัก 5 หรือ 10 โครงการ ได้ผลตอบแทนมาสักครึ่งก็เป็นคุณอเนกอนันต์แล้ว

“ปัญหายังเกิดขึ้นทุกวัน เราจึงต้องหาแนวคิดใหม่ๆ หรือแนวคิดที่เป็นทางลัดหรือนวัตกรรมเข้ามาช่วย โรงพยาบาลระยองจึงได้ร่วมกับสตาร์ทอัพ หา PAIN POINT และใช้ design thinking concept มาแก้ปัญหา และในแคมปัส 2P Safety Tech โรงพยาบาลระยองซึ่งเป็นรุ่นแรกที่เข้าร่วมแคมปัสได้ทำริชแบนด์ติดอาร์เอฟไอดีสำหรับระบุตัวตน ในพาร์ทแรกใช้กับคนไข้ ก่อนขยายโครงการไปยังบุคลากร และมองไปยังเรื่องของการทำธุรกิจ มีโรงงานสนใจจะนำข้อมูลไปบรรจุในระบบคลาวด์ แพลตฟอร์ม แล้วใช้อาร์เอฟไอดีเป็นตัวของการนำเข้าด้วย” นพ.สมบูรณ์ กล่าว