ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาฯ สปสช.ย้ำว่า "กรณีที่ขณะนี้มีประชาชนไปขอตรวจเพื่ออยากทราบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สถาบันบำราศนราดูรนั้น ขอยืนยันและย้ำว่าไม่ต้องไป หากมีอาการตามเกณฑ์ให้ไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิที่มีอยู่ หรือ...หากไปต่างจังหวัดก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ..."
          
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน "สายด่วน 1422" กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า..."ผู้ป่วย" ที่เข้าเกณฑ์สามารถตรวจหา "โควิด-19" ฟรี เริ่มด้วย...มีประวัติเสี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วง 14 วันก่อนมีอาการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
          
เดินทางมาจากเขตติดโรค...พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง, ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค...พื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง, สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยสงสัย...ผู้ป่วยยืนยัน, เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน
          
บวกกับมีอาการโควิด-19 มีไข้ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ
          
หรือ...ผู้ป่วยปอดอักเสบ ที่มีประวัติอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ ใกล้ชิดกับผู้ป่วยสงสัยโควิด-19, เป็นบุคลากรทางการแพทย์, เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบที่รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น, เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบที่หาสาเหตุไม่ได้
          
ด้วยองค์ประกอบข้างต้นทั้งหมดเหล่านี้...เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง, ประกันสังคม, ราชการ...ฟรี และอย่าลืม! สวมหน้ากากอนามัย แล้วล้างมือก่อนออกจากบ้าน
          
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ขณะนี้มีแล็บที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับรองมาตรฐานที่จะให้บริการ ขณะนี้มี 35 แห่ง และกำลังพิจารณาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามนโยบายที่อย่างน้อย 1 จังหวัด จะต้องมี 1 แห่ง ตอนนี้เท่าที่ตรวจสอบพบว่า โรงพยาบาลรามาธิบดีมีการตรวจมากสุดในกรุงเทพฯ ซึ่งบางวันมีการตรวจมากกว่า 1 พันรายการ ตรวจในทุกราย
          
ไม่ว่า...ผลจะบวกหรือลบ หากตรวจในเครือข่ายมาตรฐานฟรีไม่ว่าผลจะบวกหรือลบก็ฟรี
          
อย่างไรก็ตาม คำว่าต้องเป็นแล็บที่ได้รับรองมาตรฐานนั้น ได้แก่ 1.เชื้อนี้เป็นเชื้อใหม่ คนทำต้องมีใบประกอบวิชาชีพและมีประสบการณ์พอสมควร 2.ต้องมีเครื่องมือในการตรวจ ตอนนี้การตรวจที่เป็นมาตรฐานนานาชาติ ในองค์การอนามัยโลกให้การรับรองและที่ประเทศจีนใช้คือการตรวจระดับโมเลกุลคือตรวจพีซีอาร์ 3.ต้องมีความปลอดภัยทางชีวภาพ เนื่องจากเป็นเชื้อใหม่ที่สามารถแพร่จากทางเดินหายใจ
          
เพราะฉะนั้นหากตรวจโดยไม่มีความปลอดภัยก็อันตราย 4.ต้องทดสอบความชำนาญ หากเข้าระบบเครือข่ายมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะมีข้อสอบให้ 5 ข้อ ซึ่งต้องผ่านข้อสอบ 100% เท่านั้น...ถึงจะมีการรับรองมาตรฐาน เพราะการทำเรื่องนี้ต้องมีความแม่นยำ
          
หากให้ผลไม่แม่นยำก็จะมีผลกระทบกับการแปลผลผิดพลาดและเกิดความเสียหายตามมาได้
          
ฉายภาพคนกลุ่มใหญ่...สิทธิ "บัตรทอง" หากมีอาการสงสัยป่วย "โควิด-19"
          
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บอกว่า สำหรับประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือสิทธิบัตรทองนั้นหากมีอาการเข้าข่ายสงสัยเป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ให้ โทร.สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
          
หรือรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาลของท่าน โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ แจ้งประวัติ ไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ เพื่อตรวจเชื้อ หากพบว่าป่วยเป็นโรคโควิด-19 จะได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเร่งด่วน
          
โดยทางโรงพยาบาลตามสิทธิของท่านจะประสานส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาทไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
          
อย่างไรก็ดี พบว่ามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่หวาดกลัวแล้วต้องการไปขอรับการตรวจเชื้อจากโรงพยาบาล โดยที่ไม่มีอาการและประวัติการสัมผัสโรคและไม่เข้าเกณฑ์การเฝ้าระวังโรคอย่างที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งจะส่งผลให้โรงพยาบาลเกิดความแออัด และอาจทำให้ผู้ติดเชื้อตัวจริงเข้าไม่ถึงบริการ
          
ในกรณีนี้ สปสช.ขอแนะนำประชาชนให้ทำตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไม่แนะนำให้ไปขอตรวจและขอใบรับรองแพทย์เนื่องจาก หนึ่ง...การไปตรวจหาเชื้อในช่วงที่ไม่มีอาการ โอกาสพบเชื้อน้อยมาก หรือหากตรวจแล้วพบว่าเป็นลบก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่ป่วย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะไปขอตรวจ ในขณะที่ไม่มีอาการ สอง...การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และที่สำคัญอาจนำเชื้อต่างๆไปติดผู้ป่วยในโรงพยาบาลซึ่งมีร่างกายไม่แข็งแรงได้ สาม...เมื่อมีอาการตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข โทร.สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิโดยต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ แจ้งประวัติ ไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ
          
โดยสรุปการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนสิทธิบัตรทอง 30 บาท คือ
          
หากมีอาการเข้าข่ายสงสัยป่วยโรคโควิด-19 โทร.สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลตามสิทธิของท่านกรณีไปต่างจังหวัดให้ไปที่โรงพยาบาลของรัฐ โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย แจ้งประวัติไม่ปกปิดข้อมูลใดๆ เมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นผู้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จะถูกส่งตัวรักษาตามกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
          
ถัดมา...หากอาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ แต่สงสัยเองว่าจะป่วยเป็นโรคโควิด-19 แล้วต้องการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เอง โดยที่แพทย์ไม่ได้วินิจฉัยให้ ต้องจ่ายเงินเอง ทั้งนี้ ขอย้ำว่าในกรณีนี้ไม่แนะนำให้ไปโรงพยาบาลเพื่อขอตรวจเอง แม้จะจ่ายเงินเอง แต่การไปโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็น จะเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการได้รับเชื้อจากโรงพยาบาล และเพิ่มภาระให้บุคลากรสาธารณสุขโดยไม่จำเป็น
          
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาฯ สปสช.ย้ำว่า
          
"กรณีที่ขณะนี้มีประชาชนไปขอตรวจเพื่ออยากทราบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สถาบันบำราศนราดูรนั้น ขอยืนยันและย้ำว่าไม่ต้องไป หากมีอาการตามเกณฑ์ให้ไปที่โรงพยาบาลตามสิทธิที่มีอยู่ หรือ...หากไปต่างจังหวัดก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ
          
กรณีของสถาบันบำราศนราดูรนั้น การตรวจที่นี่เป็นการตรวจสำหรับผู้มีอาการเพื่อตรวจยืนยันเท่านั้น ไม่ใช่การตรวจคัดกรอง ดังนั้น ขอย้ำอีกครั้งว่า อาการไม่ตรงตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ต้องไปขอตรวจ"
          
สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่ายในการตรวจและรักษานั้น ขณะนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตรียมงบประมาณเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ให้แก่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 เดือน
          
หลังจากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้ สปสช.เตรียมการของบกลางเพื่อเติมให้กับหน่วยบริการในระบบเป็นงบพิเศษกรณีโรคโควิด-19 โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็น "โรคใหม่" ไม่ได้ตั้ง "งบประมาณ" ไว้
          
ตื่นตัวแต่อย่าตื่นตูม...สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสร้าย "โควิด-19" แม้ว่าจะยังคงสร้างความหวาดวิตกอยู่อย่างต่อเนื่องโปรดเตรียมรับมือป้องกันตัวเองกันอย่างมีสติ.

 

ที่มา : สกู๊ปหน้า 1 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับพิมพ์  19 มี.ค. 2563 สิทธิตรวจโควิด-19 ฟรีไม่ฟรีอยู่ที่อาการ