ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ส่งความสุขต้อนรับปีใหม่ 2567 มอบชุดของขวัญสิทธิประโยชน์บัตรทองใหม่ 4 รายการให้คนไทย ทั้งบริการฝังแร่เฉพาะที่รักษาเนื้องอกในตา บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ บริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน และบริการระบบการแพทย์ทางไกลดูแลคนไทยในต่างประเทศ เพิ่มการเข้าถึงเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงสุด เพิ่มโอกาสรักษาโรคมะเร็ง ขยายความครอบคลุมดูแลสุขภาพคนไทยอยู่ในต่างประเทศ 


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 นี้ ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยในนามของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ขอร่วมส่งความสุขให้กับคนไทยทั่วประเทศ และขออวยพรให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงถ้วนหน้า พร้อมกันนี้ขอมอบของขวัญปีใหม่ที่เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ ปี 2567 ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท เพื่อดูแลคนไทยผู้มีสิทธิให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น โดยมี 4 รายการด้วยกัน ดังนี้

1

1. บริการฝังแร่เฉพาะที่เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตา (Plaque brachytherapy) เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ที่ บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบในการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ถือเป็นบริการการแพทย์ขั้นสูงสุด ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในลูกตามีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งที่ตาได้ เป็นโรคที่พบไม่บ่อย อุบัติการณ์การเกิดโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5-6 คนต่อ 1 ล้านประชากร ซึ่งการรักษาด้วยการวางแร่ที่ตานี้เป็นทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิผล โดยเฉพาะในช่วงระยะเริ่มแรกที่อาการไม่รุนแรงมาก หรือมีขนาดก้อนเนื้อไม่ใหญ่เกินไป ช่วยลดการสูญเสียดวงตาและการมองเห็น ทั้งภายหลังการรักษาแล้วผู้ป่วยยังสามารถใช้ชีวิตได้ค่อนข้างปกติ ในปัจจุบันประเทศไทยมี รพ.รามาธิบดีเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการรักษาด้วยวิธีนี้ เป็น รพ.ที่รับส่งต่อผู้ป่วยจาก รพ.ต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้คาดว่าในระบบบัตรทองจะมีผู้ป่วยประมาณ 16 รายต่อปี ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 84,800 บาทต่อราย เป็นงบประมาณรวมจำนวน 1,356,800 บาทต่อปี

2. บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ เป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีความแม่นยำในการผ่าตัดโดยเฉพาะในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ยาก ช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้ ทำให้ผู้ป่วยมีความปลอดภัยในการรักษามากขึ้น และมีระยะเวลาของการฟื้นตัวเร็วขึ้น โดย บอร์ด สปสช. เห็นชอบให้เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ในระบบบัตรทอง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา เบื้องต้นนำร่องให้การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง 3 กลุ่ม จำนวนประมาณ 600 ราย ได้แก่ 1.มะเร็งต่อมลูกหมาก 2.มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มะเร็งตับ และ 3. ตับอ่อนและท่อน้ำดี ทั้งนี้ประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายชุดอุปกรณ์การผ่าตัดหุ่นยนต์ประมาณ 100,000 บาทต่อราย รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งหมดจำนวน 60 ล้านบาท

3. บริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน เป็นเทคโนโลยีการแพทย์ขั้นสูงสุดและมีประสิทธิผลในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง มีอัตราการควบคุมโรคเฉพาะที่และมีอัตราของการรอดชีวิตสูงในกลุ่มโรคมะเร็งสมองในเด็ก ลดผลข้างเคียงเมื่อเปรียบเทียบกับการฉายรังสีโฟตอนแบบเดิม ปัจจุบันมีศูนย์โปรตอนสมเด็จพระเทพฯ รพ.จุฬาลงกรณ์ เพียงแห่งเดียวที่ให้บริการนี้ และเพื่อให้ผู้ป่วยบัตรทองเข้าถึงการรักษา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา บอร์ด สปสช. ได้บรรจุเป็นสิทธิประโยชน์และเห็นชอบให้บริหารจัดการจ่ายชดเชยในรูปแบบเหมาจ่ายรายปีจำนวน 50 ล้านบาท ให้กับศูนย์โปรตอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นอกจากนี้ให้มีการจัดระบบส่งต่อ และประสานงานเพื่อจัดบริการให้กับผู้ป่วย และในกรณีการนำส่งผู้ป่วย สามารถเบิกจ่ายค่าพาหนะรับส่งผู้ป่วยอัตราเฉลี่ย 2,300 บาทต่อครั้ง ขณะนี้ สปสช. อยู่ระหว่างการเตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการจ่ายชดเชยค่าบริการ 

4. บริการให้คำปรึกษาทางสุขภาพแก่คนไทยในต่างประเทศทั่วโลกผ่านระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) โดยจะเป็นการให้คำแนะนำ คำปรึกษา และคัดกรองอาการป่วยเบื้องต้นโดยแพทย์ไทย ผ่าน4 แอปพลิเคชันที่ร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช.  โดยไม่เสียค่าใช่จ่าย เพียงใช้หนังสือเดินทางและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ทั้งนี้เพื่อเป็นดูแลคนไทยผู้มีสิทธิบัตรทองที่อยู่ในประเทศต่างๆ ที่เกิดภาวะเจ็บป่วย แต่มีปัญหาในด้านภาษาที่เป็นอุปสรรคสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศนั้น ช่วยสร้างความอุ่นใจด้านสุขภาพให้กับคนไทย ซึ่งขณะนี้ สปสช. ได้จัดเตรียมระบบบริการไว้แล้วและจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567

2

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ทั้ง 4 รายการ ที่ สปสช. ได้มอบให้กับประชาชนในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบบัตรทอง เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะโรคที่มีภาวะซับซ้อนอย่างโรคมะเร็ง เป็นการเพิ่มโอกาสในการรักษา ไม่ว่าจะเป็นบริการฝังแร่เฉพาะที่เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตา บริการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ และบริการรักษาด้วยรังสีโปรตอน ที่เป็นบริการทางการแพทย์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งเป็นการไปตามนโยบายมะเร็งครบวงจร และการยกระดับบริการภายใต้นโยบาย “30 บาทอัปเกรด” ของรัฐบาล

ทั้งนี้รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางสุขภาพแก่คนไทยในต่างประเทศทั่วโลกผ่านระบบการแพทย์ทางไกล ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของระบบบัตรทองที่ได้ขยายความครอบคลุมการดูแลไปยังคนไทยที่อยู่ในต่างแดน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การพบแพทย์ผ่านระบบออนไลน์ ในการรับคำแนะนำและปรึกษาด้านสุขภาพ แต่ช่วยสร้างความอุ่นใจได้อย่างมาก เป็นการส่งความสุขให้กับประชาชน สำหรับ 4 แอปพลิเคชันที่ร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. ประกอบด้วย

1. แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @Sooksabaiclinic ลงทะเบียนรับบริการได้ที่ https://telemed.salubermdthai.com/
2. แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) โดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @clicknic 
3. แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) โดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @mordeeapp ลงทะเบียนรับบริการได้ที่ https://form.typeform.com/to/qKY8gV4X
4. โททอลเล่เทเลเมด (Totale Telemed) โดยเดอะโททอลเล่คลินิก สอบถามเพิ่มเติม ไลน์ไอดี @totale