สธ. จัดตั้งหน่วยงานใหม่ป้ายแดง ‘สำนักงานดิจิทัลสุขภาพ’ มอบ ‘นพ.สุระ’ บริหาร ตั้ง ‘นพ.สุภโชค’ เป็นผู้อำนวยการ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งสำนักงานดิจิทัลสุขภาพ ยกระดับระบบริการสุขภาพไทยสู่ระบบบริการสุขภาพดิจิทัล ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพทั่วถึง พร้อมลงนามตั้ง นพ.สุระ นั่งเก้าอี้บริหาร-นพ.สุภโชค นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักดิจิทัลสุขภาพ

เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ลงนามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งสำนักดิจิทัลสุขภาพโดยมอบอำนาจให้ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ. (ด้านบริหาร) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการหรือการบริหารงานของสำนักดิจิทัลสุขภาพในการสั่ง การอนุมัติ การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินการอื่นซึ่งเป็นอำนาจของปลัด สธ. จะพึงปฏิบัติหรือดําเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเรื่องใดและให้หมายความรวมถึงการมอบอํานาจในเรื่องที่ไม่ได้กําหนดเรื่องการมอบอํานาจไว้เป็นอย่างอื่น หรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอํานาจไว้
 
ขณะเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ ยังได้มอบหมายให้ นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักดิจิทัลสุขภาพ โดยให้ผู้อำนวยการสำนักดิจิทัลสุขภาพตามคำสั่งนี้เป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าราชการและเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานข้าราชการ พนักงาน สธ. เจ้าหน้าที่ และลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในสำนักดิจิทัลสุขภาพในฐานะผู้อำนวยการกอง เพื่อให้การบริหารงานภายในสำนักดิจิทัลสุขภาพ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
 
สำหรับการจัดตั้งสำนักดิจิทัลสุขภาพนั้นรัฐบาลได้ตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิรูปประเทศ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อให้ระบบสุขภาพของประเทศไทยมีการปรับตัวอย่างเหมาะสม ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง ยกระดับระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระบบบริการสุขภาพแบบดิจิทัล สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในปัจจุบัน
 
นอกจากนี้ รองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านโรคระบาดและปัจจัยกำหนดสุขภาพอื่นๆ ในอนาคต จึงเห็นควรจัดตั้งสำนักดิจิทัลสุขภาพเพื่อให้การบริหารจัดการของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงสาธารณสุขมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการเป็นองค์กรดิจิทัลสุขภาพ และยกระดับการสาธารณสุขของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระบบบริการสุขภาพแบบดิจิทัลต่อไปได้