ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้ป่วยมะเร็งปลื้มใช้สิทธิบัตรทองผ่าตัด-ฉายรังสีอีก 33 ครั้ง ไม่ต้องเสียเงินสักบาท ชี้ค่ารักษารวมกว่า 200,000 บาท ถ้าต้องจ่ายเองคงตายไปแล้ว ขอขอบคุณผู้จัดทำนโยบายและโรงพยาบาล ช่วยเหลือชาวไร่ชาวนาได้จริงๆ

นายยุทธนา บุญเพชร ชาวบ้านต.หนองกระทุ่ม อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ขอชื่นชมนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง 30 บาท เพราะจากประสบการณ์ของตนเคยเจ็บป่วยโรคมะเร็งซึ่งต้องใช้เงินรักษาจำนวนมาก แต่เมื่อใช้สิทธิบัตรทองเข้ารับการรักษาแล้วไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย

นายยุทธนา กล่าวว่า ตนมีอาชีพเกษตรกร ใช้สิทธิบัตรทองอยู่ที่โรงพยาบาลทัพทัน โดยในปี 2560 อยู่ๆก็มีอาการสั่งน้ำมูกแล้วเลือดออก ลองเอานิ้วแหย่ดู รู้สึกเหมือนติดก้อนอะไรอยู่ ตอนนั้นได้ไปตรวจในคลินิกใน อ.เมืองอุทัยธานี บังเอิญว่าแพทย์ผู้ตรวจเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัยธานีด้วย แพทย์แนะนำให้รีบกลับไปโรงพยาบาลทัพทันเพื่อขอใบส่งตัวไปตรวจชิ้นเนื้อที่โรงพยาบาลอุทัยธานี

นายยุทธนา กล่าวต่อไปว่า เมื่อถูกส่งตัวไปตรวจชิ้นเนื้อแล้ว พบว่าเป็นก้อนเนื้อมะเร็ง แพทย์บอกว่าต้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลราชวิถี ให้รีบกลับไปโรงพยาบาลต้นทางเพื่อให้ส่งตัวไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลราชวิถี ในขั้นตอนนี้ใช้เวลาระยะหนึ่ง เริ่มเดือนเรื่องเดือน ก.ย. 2560 และได้รับการผ่าตัดในเดือน ธ.ค. 2560

"พอดีว่าภรรยาผมเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ด้วย ซึ่งมีข้อตกลงกับทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไม่ต้องจ่ายเงิน 30 บาท ดังนั้นตลอดขั้นตอนการส่งตัวต่างๆไปจนถึงผ่าตัดก็แทบไม่ต้องจ่ายเงินเลย มีจ่ายครั้งเดียว 30 บาทตอนขอใบส่งตัวไปผ่าตัดที่ราชวิถี พอผ่าตัดเสร็จตอนเอาบิลไปวางที่ห้องการเงินก็แอบดูตัวเลข พบว่าค่าผ่าตัดเกือบ 30,000 บาท แต่ใช้สิทธิบัตรทองก็เลยไม่ต้องจ่าย" นายยุทธนา กล่าว

หลังจากผ่าตัดแล้ว แพทย์ได้นำชิ้นเนื้อไปตรวจวิเคราะห์อีกและให้ควรให้ทำการฉายรังสี ตนจึงเลือกไปรับการฉายรังสีที่โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี เพราะใกล้บ้านที่สุด โดยต้องกลับมาที่โรงพยาบาลทัพทันให้ส่งตัวไปฉายรังสีอีกครั้ง

"ตอนจะเริ่มฉายรังสีก็ต้องทำหน้ากากครอบ ซึ่งเฉพาะหน้ากากก็เกือบ 20,000 บาท อันนี้ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ผมเริ่มฉายรังสี 17 ม.ค. 2561 ต้องฉายทั้งหมด 33 ครั้ง ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน เสร็จสิ้นประมาณเดือน มี.ค. 2561 ตอนนั้นเวลาเอาบิลไปวางห้องเงินก็ดูค่าฉายแสงตกครั้งละ 4,600 บาท เราก็ดูแล้วโอ้โห เฉพาะฉายรังสีนี่ก็แสนกว่าบาท ถ้ารวมค่าผ่าตัด ค่าหน้ากากครอบก็ประมาณ 200,000 บาท ถ้าเราต้องจ่ายเองคงไม่มีปัญญา คงตายตั้งแต่อยู่โรงพยาบาลอุทัยธานีแล้วแน่ๆ แต่นี่ใช้บัตรทองไปรักษาถึงกรุงเทพฯ ถึงลพบุรี ไม่เสียค่ารักษาสักบาท เสียแต่ค่าเดินทางและที่พักซึ่งก็พอรับไหว ผมว่ามันสุดยอดแล้ว อย่างคนไข้ประกันสังคมที่เจอกันเขาก็ยังต้องตรวจสอบสิทธิกันทุกเดือน ยาบางรายการก็ต้องสำรองจ่ายไปก่อน แต่บัตรทองไม่เสียเงิน ไม่ต้องสำรองจ่าย ต้องขอขอบคุณคนที่ทำนโยบายนี้มา และขอบคุณโรงพยาบาลทุกแห่งที่ดูแลผู้ป่วยอย่างดี คนไม่รู้ก็ติก็ด่าไปเรื่อย มันต้องมาเจอสภาพแบบชาวไร่ชาวนาจริงๆจะรู้ว่ามันช่วยเหลือได้จริงๆเลยล่ะ" นายยุทธนา กล่าว

ทั้งนี้ ปัจจุบันแพทย์ยังคงนัดนายยุทธนาติดตามอาการเป็นระยะๆ และการไปพบแพทย์แต่ละครั้งก็ไม่ต้องเสียเงินแต่อย่างใด