ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โฆษกตำรวจเผย เหตุยิงตัวตายในรพ. ย่านโชคชัย 4 ยากจะตรวจสอบอาวุธก่อนเข้าโรงพยาบาล ต้องฝากความหวัง รปภ. เป็นหูเป็นตาให้ เพราะกำลังสายตรวจไม่พอ ยกตัวอย่างบางรพ.มีรปภ.กว่าพันคน แต่ทั้งโรงพักมีแค่ 80 นายดูแลทั้งพื้นที่ 


พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยกับ 'The Coverage' ตอนหนึ่งถึงประเด็นมีเหตุชายใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4 ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร โดยเหตุเกิดเมื่อสายวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ว่า โรงพยาบาลเป็นสถานที่พิเศษที่ต้องดูแลรักษาผู้ป่วย ที่มุ่งเน้นให้การรักษา ขณะเดียวกันผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลส่วนใหญ่แล้วก็มาเพราะเหตุผลทางสุขภาพ หรือต้องการรักษาอาการเจ็บป่วยเป็นหลัก สาเหตุดังกล่าวจึงอาจทำให้การตรวจตราความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของโรงพยาบาลแต่ละแห่งทำได้ยาก และอาจหละหลวมได้ เพราะหลายครั้ง รปภ.ไม่กล้าเข้าไปตรวจค้น หรือตรวจสอบกับคนที่มาโรงพยาบาล เพราะไม่อยากมีปัญหาระหว่างกันกับผู้ป่วย หรือญาติผู้ป่วย  

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีแนวทางการรักษาความปลอดภัยร่วมกับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง แต่เป็นไปในลักษณะแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งจะได้มีการส่งเจ้าหน้าที่มาระงับเหตุ ขณะที่ในส่วนมาตรการป้องกันก่อนเกิดเหตุ ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก เพราะกำลังตำรวจเองไม่เพียงพอที่จะไปดูแลได้ทุกโรงพยาบาล หรือทุกสถานที่  

"อย่างโรงพยาบาลใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง มีรปภ.มากกว่า 1,000 คน แต่สถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ มีกำลังตำรวจรวมกันทั้งหมดแค่ 80 นาย ดังนั้น ตำรวจจึงอาศัยการทำงานร่วมกันกับ รปภ.ในโรพยาบาล ประสานกันทันทีเมื่อมีเหตุเพื่อที่ตำรวจจะเข้าไประงับได้ทันที ซึ่งในแง่การตรวจสอบ หรือตรวจค้นอาวุธเบื้องต้นในโรงพยาบาล จึงสำคัญอย่างมากก่อนที่จะเกิดเหตุ" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าว 

พล.ต.ท.อาชยน กล่าวก่อนขอปลีกตัวไปประชุมว่า จากรายงานเหตุที่เกิดขึ้นล่าสุดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านโชคชัย 4 เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุถืออาวุธปืนเข้ามาทำร้ายตัวเอง ก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบได้ก่อนว่าบุคคลดังกล่าวพกอาวุธติดตัวมาหรือไม่ เพราะดูภายนอกก็ไม่รู้ว่ามีเจตนาอย่างไรด้วย 

ภาพประกอบจาก - กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ