ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ร่อนหนังสือด่วนที่สุดถึง “รัฐมนตรี-ส่วนราชการ” ขอปรับลดงบรายจ่ายปี 2568 ที่ไม่จำเป็น รวม “ลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่” ยึดตามเกณฑ์ ก.พ. กำหนดไว้เท่านั้น หลังพบว่าที่ผ่านมามีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนหลายรายการ-ขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน


นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 ถึงรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หน่วยงานราชการ กระทรวง กรม เรื่องการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เสนอว่าได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และคณะอณุกรรมาธิการด้านต่างๆ ว่ายังมีการตั้งงบประมาณซ้ำซ้อนกันในหลายหน่วยงาน ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2567

ตอนหนึ่งของหนังสือระบุว่า เนื่องจากขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำยังคงมีสัดส่วนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายลงทุน ดังนั้น การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ในส่วนของงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ขอให้รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับ ดูแลแผนงานบูรณาการต่างๆ ให้ความสำคัญกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคุ้มค่า ไม่ซ้ำซ้อน และมีการบูรณาการกันอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ดี สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำ ขอให้ทุกส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐพิจารณาปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น งบประมาณด้านการประชาสัมพันธ์ งบประมาณด้านการฝึกอบรม และดูงาน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศ ค่าใช้จ่ายในการเช่ายานพาหนะ (ให้ใช้การส่งเอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือการจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น)

รวมถึง การลดการบรรจุอัตรากำลังใหม่ โดยให้มีเฉพาะที่จำเป็นตามกรอบอัตรากำลัง ระเบียบ และหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อจะได้นำงบประมาณในส่วนที่ปรับลดนี้ไปจัดสรรเป็นงบประมาณรายจ่ายการลงทุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ซึ่ง ครม. พิจารณาแล้ว ลงมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ

1