จักษุแพทย์แนะนำเครื่องมือพิเศษเครื่องวัดลานสายตา ที่ใช้ตรวจและวิเคราะห์ขอบเขตการมองเห็นของผู้ป่วยมีประโยชน์ในการคัดกรอง วิเคราะห์ ประเมินโรคต้อหิน โรคของเส้นประสาทตา และจอตา
นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า การใช้เครื่องมือพิเศษต่างๆ ทางจักษุวิทยามีประโยชน์อย่างมากต่อวงการจักษุวิทยาในการคัดกรอง วิเคราะห์ ประเมินโรค ติดตามผล และวางแผนการรักษาโรคทางจักษุวิยา หนึ่งในนั้นคือ ‘เครื่องวัดลานสายตา’ เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจและวิเคราะห์ขอบเขตการมองเห็นของผู้ป่วย มีประโยชน์ในการคัดกรองและวินิจฉัยโรคต้อหิน โรคของเส้นประสาทตา และจอตา นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งจักต้องมีความรู้และประสบการณ์ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโรคทางจักษุและโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพของเครื่องมือทางจักษุทั้งหมดได้อย่างดี
นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า เครื่องวัดลานสายตา เป็นเครื่องมือที่ใช้ตรวจและวิเคราะห์ขอบเขตการมองเห็นของผู้ป่วย ซึ่งหลักสำคัญและอาจเป็นสิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติในการตรวจวัดลานสายตา คือการอธิบายให้ผู้ป่วยรับทราบถึงวิธีการขั้นตอนการทำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เพิ่งทำเป็นครั้งแรกผู้ตรวจต้องทำความเข้าใจกับโปรแกรมการตรวจอย่างแม่นยำถูกต้องและตรงตามคำสั่งของจักษุแพทย์
นายนิพันธ์ ยอดมณี นักวิชาการโสตทัศนศึกษา ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่เครื่องมือพิเศษ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจความสามารถในการมองเห็นแบ่งได้เป็น 1. การมอง (visual acuity) คือการเห็นรายละเอียด เป็นหน้าที่หลักของ macula 2. การเห็น (visual field) คือ ขอบเขตความกว้างของการเห็น ซึ่งเป็นหน้าที่ของจอตาทุกส่วน
ลานสายตาปกติเมื่อมองตรงจะสามารถเห็นด้านข้างได้ 100 องศา ด้านจมูกได้ 60 องศา และด้านล่างได้ 75 องศา วิธีตรวจลานสายตาด้วยเครื่อง visual Field คือ 1. ผู้ตรวจต้องทำความเข้าใจกับโปรแกรมการตรวจอย่างแม่นยำถูกต้องและตรงตามคำสั่งของจักษุแพทย์ เช่น 10-2, 24-2, 30-2,red target เป็นต้น 2. การเลือกตาข้างที่ตรวจมีความสำคัญมากเพราะถ้าเลือกข้างที่ตรวจผิดผลการวิเคราะห์จะผิดไปด้วย โดยเฉพาะถ้าจะทำการวัดลานสายตาในตาเพียงข้างเดียว 3. การใส่ชื่อนามสกุลหมายเลขต่างๆ ของผู้ป่วยต้องตรงกันทุกครั้ง เพราะเครื่องไม่มีระบบความจำที่จะระบุตัวตนของผู้ป่วยได้ 4. แก้ค่าสายตาของผู้ป่วยก่อนทำเสมอ โดยใช้ผลการวัดสายตาด้วยเครื่องอัตโนมัติหรือใช้กำลัง แว่นสายตาที่ผู้ป่วยใส่มาประกอบ และคำนึงถึงอายุผู้ป่วย ซึ่งจะมีผลกับการแก้ค่าสายตาด้วย
นอกจากนี้หลักสำคัญอีกประการและอาจจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติในการตรวจวัดลานสายตา คือการอธิบายให้ผู้ป่วยรับทราบถึงวิธีการขั้นตอนการทำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เพิ่งทำเป็นครั้งแรกโดยการอธิบายดังนี้ 1. ต้องอธิบายว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป จุดประสงค์ของการตรวจครั้งนี้เพื่ออะไร 2. แจ้งผู้ป่วยว่าต้องปิดตาทำทีละข้าง และจะมีปุ่มกดให้ถือไว้ ระหว่างทำผุ้ป่วยต้องวางคางไว้บนที่วางคางและหน้าผากชิดแถบด้านบน 3. ให้ผู้ป่วยมองตรงที่จุดไฟสีแดงหรือสีส้มที่อยู่ตรงกลาง และห้ามกลอกตาไปมา 4. ให้กดปุ่มที่ถือทุกครั้งที่เห็นไฟกะพริบไม่ว่าจะกะพริบตรงกลางหรือรอบๆ ทั่วในอุโมงค์ โดยไฟที่กะพริบจะมีสีขาวเข้มและจาง(อาจมีสีอื่นได้ตามแต่ละโปรมแกรม) 5. เมื่อเสร็จข้างแรกควรพักสายตาบ้าง และเริ่มทำข้างต่อไปเมื่อผู้ป่วยพร้อมในระหว่างการตรวจ ผู้ตรวจต้องสังเกตผู้ป่วยขณะทำว่าทำถูกต้องหรือไม่หากทำผิดจะต้องเตือนผู้ป่วย หากผิดซ้ำต้องทำใหม่อีกครั้งและอธิบายซ้ำทุกครั้งเพื่อผลการตรวจจะได้ถูกต้องเชื่อถือได้ และไม่เสียเวลาผู้ป่วย แพทย์สามารถใช้แปลผลการตรวจได้ว่าปกติหรือไม่
อีกสาเหตุปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของการทำลานสายตา ได้แก่ 1.การจัดท่านั่งและศีรษะของผู้ป่วย 2. ความพร้อมของผู้ป่วย เช่น การเหนื่อยล้า เวียนศีรษะ พักผ่อนไม่เพียงพอ 3. ผู้ป่วยไม่เข้าใจหรือตั้งใจมากเกินไป โดยเฉพาะถ้าเป็นการทำครั้งแรกของผู้ป่วย 4. ผู้ป่วยจ้องจุดไฟตรงกลางผิดที่ 5. ผู้ป่วยมีหนังตาตก ตาแห้ง ตาแห้ง 6. ขนาดรูม่านตา ควรทำในขนาดรูม่านตาปกติ คือ 3 มม. 7. การแก้สายตาของผู้ป่วยก่อนทำ ระวังขอบเลนส์บังการมองเห็นของผู้ป่วย 8. ผนังลูกตาของผู้ป่วยโค้งไม่สม่ำเสมอ 9. หลอดไฟของเครื่องเสื่อม 10. ประสบการณ์และความใส่ใจของเจ้าหน้าที่ เช่น ตั้งโปรแกรมผิดตา เป็นต้น
ในส่วนของการดูแลรักษาเครื่อง Visual Field คือ 1. ทำความสะอาดทุกครั้งก่อนการตรวจผู้ป่วยทุกคน 2. เมื่อใช้เสร็จต้องทำความสะอาดเช็ดฝุ่น ด้วยผ้าแห้ง 3. คลุมเครื่องมือด้วยผ้าเพื่อป้องกันฝุ่น และ4. หากมีความผิดปกติ แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป ในการใช้เครื่องมือพิเศษต่างๆ ทางจักษุวิทยานั้นมีประโยชน์อย่างมากต่อวงการจักษุวิทยาในการคัดกรอง วิเคราะห์ ประเมินโรค ติดตามผล และวางแผนการรักษาโรคทางจักษุวิทยาผู้ใช้เครื่องมือนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ดังนั้นเจ้าหน้าที่เครื่องมือพิเศษทางจักษุวิทยา จึงต้องตระหนักถึงสิ่งสำคัญ 3 ประการได้แก่ 1. ความรู้และประสบการณ์ 2. ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโรคทางจักษุและโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 3. ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพ ข้อดีและข้อด้วยของเครื่องมือทางจักษุวิทยาทั้งหมด
- 184 views