หากเอ่ยถึงแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่มาแรง และอยู่ในกระแสมากที่สุดในช่วงระยะหลังมานี้ ย่อมหนีไม่พ้น "TikTok" แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นชื่อดังระดับโลก ที่เชื่อได้ว่าหลายคนคงใช้เวลาไม่น้อยไปกับการ "รับสาร" รวมทั้ง "สื่อสาร" เนื้อหาต่างๆ ผ่านช่องทางนี้
ในยุคที่เครื่องมือสื่อสารอยู่ในมือของทุกคน อิทธิพลของเนื้อหาที่อยู่ตรงหน้าจึงมีความสำคัญ และสร้างผลกระทบให้กับผู้คนได้ทั้งทางบวกและทางลบ ... ทว่าโดยที่เราไม่คาดคิด ปัญหาต่างๆ นานาที่ส่งผลต่อ "สุขภาวะ" ของผู้คน ซึ่งหมายรวมตั้งแต่ร่างกายไปถึงจิตใจ ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นระยะในสังคม
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแพลตฟอร์ม TikTok ก็ได้ออกมาสื่อสารถึงความพยายามในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ผ่านแคมเปญ TikTok Safety Day ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสภาพแวดล้อมเชิงบวก ด้วยการให้ความรู้ด้านดิจิทัลให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมสุขภาวะดิจิทัล และสุขภาพจิตที่ดี เพื่อให้เกิดพื้นที่ปลอดภัยบนโลกดิจิทัล
ดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โฆษกกรมสุขภาพจิต และผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต ให้ความเห็นว่า ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี การสร้างสมดุลที่ดีระหว่างความเพลิดเพลินทางดิจิทัล และสุขภาวะทางจิตใจที่ดี เป็นสิ่งสำคัญ
ทั้งนี้ เขายังเป็นหนึ่งใน Safety Advisory Councils (SAC) ที่ TikTok จัดตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระจากทั่วโลก มาให้คำแนะนำในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยบน TikTok ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นอยู่ที่ดีในโลกดิจิทัล สุขภาพจิต การปกป้องผู้เยาว์ และการตอบโต้กลโกงและการฉ้อโกง โดยที่ TikTok สามารถนำมาใช้ในการพัฒนานโยบายด้านความปลอดภัยได้
“แม้ว่าการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลมากเกินไปจะเป็นข้อกังวลที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็น TikTok มีการใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ควบคุมการใช้งานแพลตฟอร์มอย่างเหมาะสม และสนับสนุนสุขภาวะที่ดี” ดร.นพ.วรตม์ ระบุ
สำหรับความปลอดภัยในแง่ของ สุขภาวะดิจิทัล และการให้ความรู้ทางด้านดิจิทัล (Digital Wellbeing and Digital Literacy) TikTok ได้มีการออกแบบเครื่องมือ "Screen Time Management" ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการใช้งานแพลตฟอร์ม กำหนดการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอที่เหมาะสมได้
ขณะเดียวกันยังมี "Digital Literacy Hub" เป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ ทั้งยังให้ข้อมูลเชิงลึกที่รวมถึงกรณีศึกษาที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพจิต และสุขภาพทางไซเบอร์ พร้อมคำแนะนำเชิงปฏิบัติเพื่อรับมือกับความกังวลในโลกออนไลน์ และพฤติกรรมหลอกลวงต่างๆ
ในด้าน ความปลอดภัยของผู้เยาว์ (Minor Safety) ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ TikTok ให้ความสำคัญ โดยได้นำความคิดเห็นของผู้ปกครองมาพัฒนาเป็นเครื่องมือ เช่น "Family Pairing" ซึ่งช่วยให้ผู้ปกครองปรับแต่งตัวกรองเนื้อหาสำหรับบุตรหลานของตนเองได้ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอ "Content Level" ฟีเจอร์ที่ช่วยคัดกรองความเหมาะสมของเนื้อหาสำหรับเด็กอายุ 13-17 ปีโดยเฉพาะ
พร้อมกันนั้นยังได้จัดตั้ง "Youth Consultation" ภายใต้ความร่วมมือกับ iNet และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เป็นเวทีรับฟังประสบการณ์ของผู้ใช้แพลตฟอร์มโดยตรง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและเปลี่ยนแปลง พร้อมดึงกลุ่มวัยรุ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมและพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ปลอดภัยที่สุดให้กับทุกคน
สุดท้ายในแง่ของ การต่อต้านข้อมูลที่บิดเบือนไม่เป็นความจริง (Anti-Misinformation) TikTok ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผู้ใช้งานให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ พร้อมต่อต้านข้อมูลที่บิดเบือนและเป็นเท็จ สแกมและกลโกงต่างๆ โดยทุ่มเทผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยมากกว่า 40,000 คน ในการทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติ ผ่านการใช้นวัตกรรมในการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ เช่น ศูนย์กลางข้อมูล (Information Hub), Information Tag, และ Live Banner
ขณะเดียวกันยังสนับสนุนให้ผู้ใช้งานสามารถรายงานการหลอกลวง หรือกิจกรรมที่ต้องสงสัยว่าเป็นการฉ้อโกงโดยทันที ผ่าน Self Report ภายใต้หัวข้อ “การฉ้อโกงและการหลอกลวง” เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรายงานแต่ละฉบับได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดและจะถูกดำเนินการตามความเหมาะสมตามข้อเท็จจริงที่ค้นพบ
นอกจากนั้น TikTok ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เช่น สำนักข่าว Agence France-Presse (AFP) หรือศูนย์ COFACT ประเทศไทย เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ต่อต้านข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เป็นการรักษามาตรฐานของแพลตฟอร์มให้เชื่อถือได้และมีความรับผิดชอบ
ปัจจุบัน TikTok ได้เปิดตัวแคมเปญ “Trust” เพื่อมุ่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาวะดิจิทัลที่ดี ซึ่งประกอบด้วย โครงการริเริ่มการให้ความรู้และเวิร์กช็อปด้านความปลอดภัยให้กับผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น TikTok Safety Day ที่ช่วยส่งเสริมการสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มอย่างปลอดภัย และแคมเปญ #พื้นที่ปลอดภัยในการไถฟีด ใน Digital Literacy Hub ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล โดยคอนเทนต์ในแคมเปญดังกล่าวมียอดการชมรวมกว่า 600 ล้านครั้ง
สิริประภา วีระไชยสิงห์ Outreach and Partnerships Lead, Trust and Safety จาก TikTok ระบุว่า การใช้นโยบายความปลอดภัย การร่วมมือกับพันธมิตร และการริเริ่มกิจกรรมออนไลน์ต่างๆ ในแคมเปญ Trust นับเป็นส่วนสำคัญในความพยายามอย่างต่อเนื่องของ TikTok ที่จะสร้างความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มให้กับทุกคน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับ TikTok ได้อย่างมั่นใจ
“TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นในเรื่องของความปลอดภัย ต่อต้านเนื้อหาและข้อมูลที่เป็นเท็จหรือบิดเบือด อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ มีความโปร่งใสและรับผิดชอบ ที่พร้อมส่งเสริมและยกระดับความรู้และสุขภาวะดิจิทัลที่ดีให้แก่ทุกคน” สิริประภา ยืนยันทิ้งท้าย
- 120 views