ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ศูนย์เทคโนโลยีจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพสายตา ภายใต้แคมเปญ “SIGHT STORY” เรื่องเล่าผ่าน “สายตา” ที่เคลียร์ชัดทุกมุมมอง ร่วมรับฟังเสวนา นวัตกรรมการแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยเลสิกและภัยสุขภาพทางสายตาในยุคดิจิทัล โดยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง พิเศษสุดภายในงานร่วมตรวจสุขภาพสายตาและรับคำปรึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


ศูนย์เทคโนโลยีจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการดูแลสุขภาพสายตาในโครงการ อิสระกับการใช้ชีวิตแบบไร้กรอบ “SIGHT STORY” เรื่องเล่าผ่าน “สายตา” ที่เคลียร์ชัดทุกมุมมอง เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2566 พร้อมกับจัดเสวนาให้ความรู้ด้านสุขภาพสายตา ในหัวข้อ “นวัตกรรมสุขภาพการแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยเลสิกและภัยสุขภาพทางสายตาในยุคดิจิทัล” โดยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตาและการแก้ไขปัญหาสายตาด้วยนวัตกรรมเลสิก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  

นอกจากนี้ ภายในงานยังเปิดให้ผู้ที่ร่วมลงทะเบียนร่วมงานจำนวน 30 ท่าน เข้ารับบริการปรึกษาแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาสายตาด้วยการทำเลสิก รับสิทธิ์ตรวจคัดกรองความผิดปกติทางสายตาเบื้องต้น 4 รายการ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

1

นพ.ปัณณ์ธนารัช กะสีวัฒน์ หัวหน้าศูนย์เทคโนโลยีจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า โรคทางตาเป็นหนึ่งในภัยสุขภาพใกล้ตัว ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ประชากรทั่วโลกมีปัญหาทางสายตาประมาณ 2,200 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นปัญหาจากความผิดปกติทางสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง หรือจากโรคต้อกระจก ที่ไม่ได้รับการแก้ไขรักษา ปัจจุบันปัญหาสุขภาพดวงตา เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั้งของไทยและของโลก 

สำหรับโครงการนี้ ศูนย์เทคโนโลยีจักษุวิทยา โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตั้งใจที่จะทำขึ้นเพื่อสร้างการตระหนักรู้และให้ความสำคัญกับความเสี่ยงโรคทางตาเพื่อป้องกันการเกิดภาวะสายตาผิดปกติและในฐานะโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่เปิดให้บริการทางการแพทย์และรักษาพยาบาลแก่ประชาชนด้วยบริการศูนย์การรักษาโรคเฉพาะทาง ตรวจวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มโรคด้วยเทคโนโลยีบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล 

ในการให้ประชาชนทุกระดับชั้นสามารถเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ตามพระปณิธานขององค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่พึ่งในการดูแลสุขภาพดวงตาของประชากรไทยจากการเติบโตของประชากรสูงวัยและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตสู่โหมดดิจิทัล

2

นพ.ประธาน ปิยสุนทร แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา อนุสาขากระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา ได้ให้ข้อมูลเรื่องของการแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลเซอร์ แบบ ReLEx SMILE ว่า  การแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลเซอร์ แบบ ReLEx SMILE ทำงานโดยใช้ Femtosecond Laser ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่โดยแพทย์ผู้ชำนาญจะแยกชั้นกระจกตาเป็นรูปเลนส์ (Lenticule) ภายในกระจกตา และนำเลนส์ที่ตัดไว้นั้นออกมาผ่านแผลเปิดเล็กๆ ที่กระจกตา ขนาดประมาณ 2-4 มิลลิเมตร 

เพื่อปรับความโค้งของกระจกตาให้เหมาะสมกับค่าสายตาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งทำให้แผลหายเร็ว มีอาการเคืองน้อยมากเมื่อเทียบกับเลสิกแบบเดิม และสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ หลังจากผ่าตัดเพียง 1-2 วัน และเนื่องจากการผ่าตัดด้วยวิธี ReLEx SMILE จะมีแผลเปิดที่กระจกตาเล็กเพียง 2-4 มิลลิเมตรเป็นผลให้ตาแห้งน้อยกว่า มองเห็นดีขึ้นได้ทันทีและคงที่ในเวลาที่ไม่นาน 

ดังนั้น จึงถือว่า ReLEx SMILE เป็นเทคโนโลยีแบบแผลเล็กที่มีความแม่นยำและผลข้างเคียงน้อย โดยก่อนเข้ารับการผ่าตัดจะต้องมีการตรวจประเมินสภาพสายตา ด้วยการตรวจวัดค่าสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทดสอบการมองเห็น วัดความดันตา ตรวจและวัดค่าสายตาโดยจักษุแพทย์ วัดปริมาณน้ำตา ถ่ายภาพพื้นผิวกระจกตาและวัดความหนาของกระจกตา หยอดยาขยายม่านตาและตรวจสภาพจอประสาทตาอย่างละเอียดโดยจักษุแพทย์ ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัด ประมาณ 30 นาที เมื่อทำเสร็จแล้ว ผู้ป่วยจะต้องใส่ที่ครอบตา 1 วัน และสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องค้างคืนที่โรงพยาบาล

3

ด้าน พญ.ณัฐมน ศศิประภา แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา อนุสาขากระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติด้วยวิธีเลเซอร์ แบบ Femto Lasik ว่า “ Femto LASIK เป็นนวัตกรรมการทำเลสิกรูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิดและสายตาเอียงได้ โดยการผ่าตัดแบบใช้แสงเลเซอร์ในการสแกนไปตามความโค้งของกระจกตา ด้วยความเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ตอย่างแม่นยำ 

ทั้งนี้ เลเซอร์ที่ใช้ในการผ่าตัดเลสิก Femto มีความถี่สูง พลังงานต่ำ ความปลอดภัยสูง กำหนดความหนาของฝากระจก และสามารถแยกชั้นกระจกตาได้อย่างเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ ทำให้แผลกระจกตาที่ได้สามารถสมานตัวได้เร็ว อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย ผลข้างเคียงน้อย พักฟื้นไม่นานผู้ที่มีลักษณะตาค่อนข้างเล็ก สามารถใช้วิธีนี้ได้ ผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกสบายตา ไม่เจ็บปวด เป็นวิธีที่สามารถลดความคลาดเคลื่อนของการแยกชั้นกระจกตา หรือลดปัญหาผิวกระจกตาถลอกได้ และสามารถกำหนดความลึกและความหนาของชั้นกระจกตาได้อีกด้วย ” 

2