ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ม.มหิดล เดินหน้าพัฒนา ‘การแพทย์จีโนมิกส์’ พร้อมเปิดบริการใหม่ ‘ตรวจการกลายพันธุ์ของยีนจากชิ้นเนื้อมะเร็ง’


ศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร หัวหน้าศูนย์วิจัยเป็นเลิศด้านการแพทย์แม่นยำ ศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า โรคมะเร็งมีโอกาสเกิดซ้ำและสามารถพบได้ภายหลังโรคสงบลงแล้ว โดยมีหลายสาเหตุ ทั้งโรคมะเร็งกลับเป็นซ้ำจุดเดิม หรือเกิดมะเร็งขึ้นใหม่ในตำแหน่งอื่น โดยมีสาเหตุจากการกลายพันธุ์ของยีนก่อมะเร็ง ซึ่งปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีจีโนมิกส์ที่ริเริ่มขึ้นโดยศิริราช ทำให้สามารถเฝ้าระวังได้ถึงระดับยีนหรือสารพันธุกรรม โดยการตรวจจากเลือด และชิ้นเนื้อ

ทั้งนี้ การตรวจจากเลือดในระดับยีนเป็นวิธีการที่แม่นยำกว่าการตรวจหาโปรตีนสารบ่งชี้มะเร็งต่างๆ เช่น CEA (Carcinoembryonic Antigen) ตามที่มีในรายการตรวจสุขภาพประจำปีโดยทั่วไป ซึ่งมีข้อจำกัดที่ความจำเพาะ และความไวต่ำ เหมาะสำหรับการติดตามหลังการรักษามากกว่าการตรวจในครั้งแรก ซึ่งกว่าจะทราบถึงการผิดปกติ ก็มักเป็นในระยะลุกลามแล้ว โดยอาจเริ่มมีการกระจายสู่ต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมายถึงโอกาสในการทำให้อาการของโรคมะเร็งสงบลงเป็นไปได้ยากมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการตรวจยีนมะเร็งที่ถ่ายทอดได้ภายในครอบครัวจากเลือด ซึ่งศิริราชเปิดให้บริการมานานนับทศวรรษ จนปัจจุบันสามารถใช้ตรวจกลุ่มเสี่ยงได้มากถึง 2,000 รายต่อปี และอีกการตรวจหนึ่งที่เพิ่งเปิดให้บริการในปี 2566 นี้ ได้แก่ การตรวจการกลายพันธุ์ของยีนจากชิ้นเนื้อมะเร็ง (Comprehensive Genomic Profile) ซึ่งสามารถตรวจพร้อมกันได้ถึง 300 ยีนในคราวเดียว เพื่อนำไปสู่การเลือกยา หรือวิธีการรักษาแบบมุ่งเป้าต่อไป ซึ่งสามารถทราบผลได้ในเวลาอันสั้น พร้อมนำไปเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณารักษาได้ทันที

ศ.นพ.มานพ กล่าวว่า ปัจจุบันการบริการทางแพทย์ของไทยได้รับความสนใจจากชาวต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการดูแลรักษาโรคซับซ้อน ในฐานะหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของการเดินทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Destinations) ที่สามารถนำเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศได้เป็นจำนวนไม่น้อยในแต่ละปี

“องค์ความรู้ทางด้านเทคโนโลยีจีโนมิกส์และชีววิทยาของโรคมะเร็งยังมีอีกหลายมิติที่รอการเข้าถึง ซึ่งปัจจุบันคาดว่าเรายังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งไม่ถึงร้อยละ 10 มหาวิทยาลัยมหิดล โดย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พร้อมมุ่งมั่นเดินหน้าศึกษาวิจัยวิธีการใหม่ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อย่างตรงจุด โดยอาศัยข้อมูลจีโนมเพื่อให้ได้ผลของการพยากรณ์ที่แม่นยำ และการรักษาที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการทำให้โอกาสในการสร้างมหัศจรรย์แห่งชีวิตใหม่ของผู้ป่วยโรคมะเร็งมีมากขึ้นตามไปด้วย จากการสามารถทำให้โรคมะเร็งเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่รักษาได้ และผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด” ศ.นพ.มานพ กล่าว