ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เอ็นจีโอด้านเอดส์ขานรับ สปสช. จัดตู้คีออสกระจายถุงยางอนามัยให้ผู้มีสิทธิบัตรทองเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้ด้วยตนเอง ชี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ฝากบูรณาการระบบให้สิทธิอื่นๆสามารถเข้าถึงบริการในอนาคตได้ด้วย


ภายหลังจากที่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดตัวโครงการ“เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” 'แจกยาคุมกำเนิด-ถุงยางอนามัย' ณ ท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งในงานนี้มีการเปิดตัวนวัตกรรมตู้แจกถุงยางอนามัยอัตโนมัติของ สปสช. สำหรับให้ผู้มีสิทธิบัตรทองสามารถไปกดรับได้ด้วยตัวเอง โดยเป็นการนำร่องใช้งานที่เมืองพัทยาเป็นพื้นที่แรกของประเทศไทย

นายธีรศักดิ์ ประสานพิม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักระบบบริการสุขภาพพื้นที่ 2 สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย สำนักงานชลบุรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เห็นรูปแบบการเข้าถึงถุงยางอนามัยได้อย่างง่าย ที่ผ่านมาสมาคมฟ้าสีรุ้งทำงานกับกลุ่มความหลากหลายทางเพศ ทั้งการเดินแจกถุงยางอนามัย การจัดค่ายทักษะชีวิตพิเศษเพื่อขยายตัวแทนในการแจกจ่ายถุงยางอนามัยลงไปในชุมชน การมี Drop In Center ในองค์กร ชุมชนต่างๆ และในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาก็พัฒนาระบบบริการที่เรียกว่าคอนด้อมเดลิเวอรี่ให้คนที่มีไลน์ส่งข้อความเข้ามาขอรับถุงยางอนามัย

2

อย่างไรก็ดี การกระจายถุงยางอนามัยก็ยังไม่ครอบคลุม ซึ่งการที่ สปสช. จัดทำตู้คีออสให้กดรับถุงยางอนามัยได้ด้วยตนเองถือเป็นหมุดหมายที่ดีว่าต่อไปประชาชนทุกคนจะสามารถเข้าถึงถุงยางได้ และหวังว่าในอนาคตจะมีตู้แบบนี้หลายๆจุดในทุกจังหวัด รวมถึงหน่วยบริการของ สปสช. ไม่ว่าเป็นที่ร้านยา หรือในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลด้วย 

ด้าน นายจำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) กล่าวว่า ผู้ที่ใช้ถุงยางอนามัยเยอะที่สุดก็น่าจะเป็นกลุ่ม Sex Worker และคิดว่าทาง สปสช. มาถูกทางนะเพราะว่าตู้ถุงยางอนามัยมันสามารถทำให้คนเข้าถึงง่าย แต่มีข้อเสนอแนะว่าอาจต้องปรับรูปแบบตู้คีออสให้มีขนาดเล็ก ไม่ประเจิดประเจ้อ ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะบางคนอาจรู้สึกอายและไม่กล้าแสดงตัวไปกดถุงยางอนามัย ดังนั้นจึงควรปรับรูปแบบให้คนสามารถไปรับถุงยางได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

ประการต่อมาคือในแพ็คเก็จถุงยางอนามัยที่แจกในตู้นี้อยากให้มีสารหล่อลื่นรวมอยู่ด้วยเพราะกลุ่ม LGBT ไม่ใช่มีสารหล่อลื่นโดยธรรมชาติและต้องใช้สารหล่อลื่นที่สร้างขึ้นมาเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้แต่หญิงแท้บางคน เช่น กลุ่ม Sex Worker ที่มีอายุมาก บางคนช่องคลอดแห้งแต่ยังต้องทำงานขายบริการอยู่และจำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่นช่วย เป็นต้น

“ประการสุดท้ายคืออยากให้ทุกคนเข้าถึงได้ไม่ใช่แค่สิทธิบัตรทอง ทำอย่างไรให้บูรณาการระบบสุขภาพของประเทศให้เป็นระบบเดียวและทุกคนเข้าถึงได้ เรื่องนี้อาจจะยากหน่อยแต่ก็ขอฝากให้พิจารณา”นายจำรอง กล่าว

2

ด้าน คุณพรพิพัฒน์ โพธาสินธุ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิซิสเตอร์ พัทยา กล่าวว่า ฝากพิจารณาถึงเรื่องไซส์ของถุงยางอนามัยที่แจกให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ควรมีขนาดกว้างที่หลากหลายชนิดให้คนสามารถเลือกในการเข้าถึงได้ อย่างที่พัทยาส่วนมากจะขอรับไซส์ 56 กันเยอะมากจนไม่พอแจก แต่หากเป็นไซสต์ 49 จะใช้ไม่ได้เพราะคับเกินไป เป็นต้น

ขณะที่ น.ส.ทฤษฎี สว่างยิ่ง ผู้อำนวยการเครือข่ายสุขภาพและโอกาส Hon house พัทยา กล่าวว่า ถุงยางอนามัยเป็นนวัตกรรมเดียวที่สามารถป้องกันได้ 2 อย่าง ทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ส่วนตัวรู้สึกภาคภูมิใจที่ตู้นี้มาวางที่พัทยาก่อน ซึ่งการมีบริการดังกล่าวทำให้สิทธิประโยชน์อยู่ในมือของประชาชนได้โดยตรง สามารถเดินเข้าไปกดแล้วก็ได้ของเลย เป็นทางเลือกที่หลากหลายนอกเหนือจากการไปรับที่หน่วยบริการ และคาดหวังว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงชุดสิทธิประโยชน์อื่น ๆ  เช่น ในอนาคตอาจจะไปกดยาคุมกำเนิดได้เอง เป็นต้น 

ทั้งนี้ ปัจจุบันตู้คีออสแจกถุงยางอนามัย นำร่องติดตั้งที่พัทยา ขณะนี้มีให้บริการแล้วที่บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย และ โรงพยาบาลเมืองพัทยา และในวันที่ 1 มีนาคม 2566 นี้ จะเพิ่มการติดตั้งอีก 1 จุด คือ ตลาดเทพประสิทธิ์ และอยู่ระหว่างเพิ่มจุดติดตั้งในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป 

นอกจากนั้นยังสามารถขอรับถุงยางอนามัยผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ด้วย โดยไปที่เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือกสิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค เลือกถุงยางอนามัย เลือกหน่วยบริการหรือร้านยาที่ต้องการไปรับ และเดินทางไปรับได้ทันที 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  
1.สายด่วน สปสช. 1330 
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ