ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

พัทยา และ จ.ชลบุรี ทุกวันนี้ กำลังขับเคลื่อนเรื่องการใช้ ถุงยางอนามัย อย่างจริงจังในระดับที่เรียกได้ว่า ‘วาระจังหวัด’ เลยก็ว่าได้

ตัวเลขเชิงสถิติระบุว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการทางเพศที่เป็นเพศชาย (Male sex workers) มีการใช้ถุงยางอนามัยมากกว่า 97% ขณะที่กลุ่มผู้ให้บริการทางเพศที่เป็น Transgender และผู้หญิง (Female sex workers) อยู่ที่ประมาณ 75%

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ซึ่งตรงกับ ‘วันแห่งความรัก’ ก็มีการจัดงานเปิดตัวโครงการใหญ่อีกครั้ง ภายใต้ชื่อ เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นการรณรงค์แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีและท้องไม่พร้อม ด้วยการแจก ‘ถุงยางอนามัย’ ฟรี ตามสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับผู้ใช้สิทธิบัตรทอง

“The coverage” มีโอกาสได้รับฟังข้อมูลที่น่าสนใจจาก นพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี (สสจ.ชลบุรี) ถึงสถานการณ์และจังหวะก้าวที่น่าสนใจของจังหวัดหลังจากนี้

1

เปิด 3 กลุ่มเสี่ยง

นพ.อภิรัต อธิบายว่า ใน จ.ชลบุรี มีกลุ่มเสี่ยงต่อเชื้อเอชไอวีและปัญหาท้องไม่พร้อมอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มวัยรุ่น 2. กลุ่มวัยทำงาน และ 3. กลุ่มผู้ให้บริการทางเพศ ซึ่งรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว

สำหรับกลุ่มผู้ให้บริการทางเพศและนักท่องเที่ยวนั้น จ.ชลบุรี ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องมีการใช้ถุงยางอนามัยมากกว่า 92% ของคนกลุ่มนี้ทั้งหมด ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ผู้ให้บริการทางเพศที่เป็นเพศชาย (Male sex workers) มีการใช้ถุงยางอนามัยกว่า 97% แต่ในกลุ่มที่เป็นผู้ให้บริการทางเพศที่เป็นคนข้ามเพศ (Transgender) และผู้หญิง (Female sex workers) อยู่ที่ประมาณ 75% 

"ถ้าสามารถทำให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงได้ 92-100% ก็จะช่วยควบคุมปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้มากขึ้น" นพ.อภิรัต กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันค่าเฉลี่ยของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคซิฟิลิส แผลริมอ่อน หนองใน ฯลฯ ของ จ.ชลบุรี มีมากกว่าค่าเฉลี่ยในระดับประเทศ ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คืออัตราการติดเชื้อเอชไอวีที่เพิ่มสูงขึ้น

มากไปกว่านั้น ผู้ได้รับยาต้านไวรัสสำหรับควบคุมเชื้อเอชไอวี พบว่ายังมีอีกราว 29% ที่ยังไม่สามารถกดเชื้อให้ต่ำลงจนไม่สามารถแพร่ไปยังคนอื่นได้ โดยมีสาเหตุจากอาจจะไม่ได้รับยา หรือเข้าไม่ถึงบริการ ซึ่งในส่วนนี้ทางเครือข่ายองค์องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ก็มีการจัดโครงการในการช่วยหนุนเสริมค่อนข้างมากเช่นกัน 

“ถ้าเราสามารถทำให้เขาเข้าถึง และใช้สิ่งเหล่านี้ (ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด) เพิ่มขึ้นได้ อย่างน้อยผมเชื่อว่าน่าจะช่วยให้ประเด็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นทั้งสองอย่าง คือ เรื่องการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอชไอวีจะลดลงไปอีกมาก” นพ.อภิรัต กล่าวเสริม 

1

‘ท้องไม่พร้อม ลดลงจริง

นายแพทย์ สสจ.ชลบุรี กล่าวอีกว่า สำหรับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ จ.ชลบุรี จากข้อมูลในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น หรือการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในพื้นที่ จ. ชลบุรี ลดลงค่อนข้างมากจากเดิมอยู่ที่ 30% ลดลงมาเหลือประมาณ 20% 

“ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นปัญหาทางสังคมด้วย ไม่ใช่ปัญหาทางสาธารณสุขเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นทั้งเรื่องครอบครัว สังคม และสุดท้ายถึงมาตกที่สาธารณสุข เพราะการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นหรือเด็กเล็ก บางคน 11 ขวบ บางคนอาจไม่สามารถกลับไปเรียนได้ เพราะฉะนั้นสังคมต้องช่วยกัน” นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี กล่าว 

นพ.อภิรัต ย้ำว่า บริการถุงยางอนามัยและบริการคุมกำเนิด เป็นบริการสุขภาพที่จำเป็นที่นำไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุข ไม่ว่าจะเป็นกรณีท้องไม่พร้อม หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บรรจุสิทธิประโยชน์เหล่านี้ในระบบบัตรทอง 30 บาท จะช่วยให้คนไทยมีสิทธิรับบริการและเข้าถึงบริการได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

นอกจากนี้ โครงการของ สปสช. ยังเป็นการสนับสนุนงานควบคุมโรคของหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ให้สำเร็จและบรรลุเป้าหมายกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งการเปิดตัวโครงการ เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ร่วมกระตุ้นเตือนให้สังคมร่วมตระหนักและให้ความสำคัญต่อการป้องกันปัญหาท้องไม่พร้อมและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 

2

อนึ่ง ข้อมูลของกรมอนามัย ปี 2564 พบว่าหญิงไทยอายุ 15-19 ปี ยังคงมีอัตราการคลอดอยู่ที่ 24.4 ต่อ 1,000 ประชากร ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมโรค ก็พบว่าสัดส่วนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน กลายเป็น 22.2% ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อเอชไอวีทั้งหมด ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2551 ที่มีสัดส่วนอยู่เพียง 9.5%

สำหรับโครงการ “เลิฟปัง รักปลอดภัย แก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” เป็นสิทธิประโยชน์สุขภาพดีป้องกันโรค จาก สปสช. เพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์-โรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ โดยจะแจก ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน-ถุงยางอนามัย ฟรี แก่ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง ครั้งละ10 ชิ้น/คน/สัปดาห์ ไม่เกิน 52 ครั้ง/คน/ปี (ส่วนสิทธิประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการ รอประกาศอีกครั้ง) โดยที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีการนำร่องติดตั้งเครื่องแจกถุงยางอัตโนมัติด้วย