ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผย หากมีอาการปวดหลังเรื้อรังมานาน อาจเป็นสัญญาณเตือนเนื้องอกไขสันหลังหากปล่อยเรื้อรังไปนานๆ อาจส่งผลถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย


นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ระบบประสาทส่วนกลางของร่างกาย ซึ่งประกอบไปด้วยสมองและไขสันหลังที่มีความสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน โดยเฉพาะเนื้องอกไขสันหลัง คือเนื้องอกที่อยู่ในโพรงกระดูกสันหลัง อยู่ในตำแหน่งตั้งแต่ระดับคอจากรอยต่อก้านสมองไปจนถึงระดับเอว หากเกิดการแบ่งตัวผิดปกติของเซลล์ประสาทจะพัฒนากลายเป็นเนื้องอก โดยที่เซลล์ของเนื้องอกไขสันหลังส่วนใหญ่เป็นเซลล์ของเยื่อหุ้มไขสันหลัง เซลล์เยื่อหุ้มเส้นประสาท และเซลล์ภายในไขสันหลัง

อย่างไรก็ดี อาการของเนื้องอกไขสันหลังในแต่ละตำแหน่งจะมีความแตกต่างกัน เช่น ถ้าเนื้องอกอยู่ในระดับกระดูกสันหลังส่วนคอ จะมีอาการอ่อนแรงกล้ามเนื้อแขน ชาตามมือและแขนเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอาการปวดต้นคอจะไม่มาก อาจมีอาการเพียงแค่ปวดตึงคอ ไม่ค่อยมีอาการปวดร้าวลงแขนแบบที่พบในโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน เวลาเดินบางครั้งอาจมีอาการเกร็งที่ขา 2 ข้าง ส่วนอาการเนื้องอกไขสันหลังในระดับเอวจะมีอาการอ่อนแรงขาข้างใดข้างหนึ่ง เวลาเดินขาอาจจะทรุดลงได้ หากยังไม่รับการรักษาอาการอ่อนแรงจะมากขึ้น หรืออาจทำให้อัมพาตทั้งแขนและขาทั้ง 2 ข้างได้ อาการส่วนใหญ่จะมีอาการอ่อนแรงที่ขาเป็นหลัก ร่วมกับมีอาการชาของลำตัวลงไปจนถึงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างได้ 

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า ในผู้ป่วยบางรายอาจพบอาการปวดบริเวณกลางหลัง ชาหรือปวดร้าว รอบๆ อกได้ เนื้องอกในระดับกระดูกสันหลังส่วนเอวจะมีเส้นประสาทไขสันหลัง และส่วนปลายของไขสันหลัง หากเกิดเนื้องอกบริเวณนี้ อาการอ่อนแรงจะไม่อ่อนแรงขาทั้งข้าง ซึ่งต่างจากเนื้องอกในตำแหน่งระดับคอ หรือ อก แต่ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลัง ปวดเอว ร่วมกับอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ 

ขณะเดียวกัน อาการปวดหลัง มีตั้งแต่ปวดตึงไปจนถึงปวดมาก นอนพักก็ไม่หาย ปวดแบบโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน ผู้ป่วยบางรายปวดมากจนไม่สามารถนอนได้ หากอาการรุนแรงมากขึ้นจะพบปัญหาระบบการขับถ่าย เช่น กลั้นอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้ โดยปัจจุบันใช้การรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งเป็นวิธีเดียวในการรักษา หากผู้ป่วยมีอาการเข้าได้กับโรคเนื้องอกไขสันหลัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาที่ถูกต้องอย่างรวดเร็ว เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีและหายเป็นปกติได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ