ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เป็นกระแสเชิงบวกขึ้นมา และได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างดีเยี่ยม หลังจากที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินโครงการ ‘สิทธิบัตรทองป่วยเล็กน้อย 16 อาการ รับยาฟรีได้ที่ร้านยา’ มากไปกว่านั้น เภสัชกรที่ร้านยายังจะช่วยติดตามอาการป่วย 3 วันอีกด้วย

ทันทีที่โครงการนี้ประกาศใช้ เริ่มเห็นผู้ใช้สิทธิบัตรทองเข้าใช้บริการมากขึ้น โดยเหตุผลอันดับหนึ่งก็คือความสะดวกสบาย

หลังจากดำเนินโครงการได้ไม่นาน สปสช.ก็ขยายความร่วมมือกับร้านยาเพิ่มขึ้นอีก โดยได้จับมือกับ

บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด หรือร้านยา Boots (บู๊ทส์) ซึ่งมีกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ให้เข้ามาเป็นด่านหน้าในการให้บริการตามโครงการนี้

หมายความว่า สิทธิบัตรทองเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ เดินเข้าไปที่ร้าน Boots ได้เลย

สิ่งที่ สปสช. ได้จากการจับมือครั้งนี้ คือการเพิ่มจุดบริการ การขยายความครอบคลุม และการเอื้อให้ประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองมีความสะดวกสบายมากขึ้น

ขณะที่ร้าน Boots จะได้จากการเข้าร่วมโครงการนี้ ประการแรกคือ สปสช.จะเหมาจ่ายค่าบริการและค่ายาให้ทางร้าน Boots ครั้งละ 180 บาท ต่อการดูแลผู้ป่วยหนึ่งครั้ง อีกประการหนึ่งก็คือ Boots จะได้ Traffic ขอลูกค้าที่เดินเข้า-ออกจากร้านมากขึ้น

ถือว่า win-win

“The Coverage” พูดคุยกับ ภก.ยศนันตวิต ทุนคำกอบพึ่งตน Healthcare Director หรือ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ จาก บู๊ทส์ ประเทศไทย ถึงการดำเนินโครงการนี้ และภาพอนาคตที่จะขยายการบริการออกไปให้มากยิ่งขึ้น

“วิชชั่น (วิสัยทัศน์) ของเราคือการทำธุรกิจ แต่จิตวิญญาณของเราคือการให้บริการสุขภาพประชาชน” ภก.ยศนันตวิต ระบุ

1

นั่นทำให้ โครงการ 16 กลุ่มอาการ เป็นเพียงอิฐก้อนแรกของความร่วมมือ เพราะในอนาคต มีความเป็นไปได้ที่ Boots จะสนับสนุนการให้บริการอนามัยของสตรีในสิทธิบัตรทอง ทั้งการรับยาคุมกำเนิด อนามัยเจริญพันธุ์สตรี ชุดตรวจตั้งครรภ์ ที่จะไม่มีค่าใช้จ่าย และอาจรวมไปถึงการให้บริการฉีดยาผู้ป่วยอีกด้วย

ภก.ยศนันตวิต ขยายความถึงคำว่าจิตวิญญาณของบู๊ทส์ คือ การทำธุรกิจที่สร้างประโยชน์ทางสุขภาพให้กับประชาชน และขอเป็นพาร์ทเนอร์ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสุขภาพของภาครัฐอย่างมีมาตรฐานร่วมกัน

“เพราะสุดท้าย สิ่งที่บู๊ทส์และภาครัฐมองตรงกัน คือประโยชน์ทางสุขภาพของประชาชน จะต้องดีขึ้นไปเรื่อยๆ” ภก.ยศนันตวิต ย้ำ

นั่นหมายความว่า ไม่ว่ากิจกรรมใด-โครงการใดที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม บู๊ทส์ก็พร้อม “เอาด้วย”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก - บู๊ทส์เคยร่วมงานกับ สปสช.มาแล้ว

บู๊ทส์ คือบริษัทยาจากประเทศอังกฤษ เริ่มร้านขายยาตั้งแต่ปี ค.ศ.1849 หรือ 173 ปี จากยาสมุนไพรไปสู่ยาแผนปัจจุบัน ก่อนที่จะไปร่วมธุรกิจกับบริษัทด้านอาหารเสริม เวชสำอาง จากสหรัฐอเมริกา คือ Wallgreens (วอลกรีนส์) และกลายมาเป็น Wallgreens Boots Alliance หรือ WBA จากนั้นก็กระจายสาขาไปหลายประเทศทั่วโลกในนามบู๊ทส์

บู๊ทส์เข้ามาปักหลักธุรกิจในประเทศไทยเมื่อ 25 ปีก่อน หรือในปี พ.ศ. 2540 ด้วยธุรกิจร้านยาที่มีเภสัชกรประจำสาขา อาหารเสริมต่างๆ รวมถึงเวชสำอาง และขยายธุรกิจมาเรื่อยๆ ในประเทศไทยกระทั่งมีถึง 200 สาขา กระจายไปตามห้างโมเดิร์นเทรด แหล่งคอมมิวนิตี้ ทั่วประเทศ

มาถึงปัจจุบัน จากธุรกิจที่ขายยา และเวชสำอาง สินค้าต่างๆ ให้กับคนไทย มาสู่การทำงานร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐอย่าง สปสช. ในการเอา 200 สาขาของบู๊ทส์ เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการร่วมให้กับผู้มีสิทธิบัตรทอง ซึ่งโครงการที่เด่นชัดที่สุดคือการรับยาฟรีที่ร้านขายยา ซึ่งร้านบู๊ทส์ เป็นอีกหนึ่งร้านยาที่คนไข้สิทธิบัตรทองไปใช้สิทธิ์ได้

แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บู๊ทส์ทำงานร่วมกันกับภาครัฐ

ภก.ยศนันตวิต เล่าว่า บู๊ทส์ ประเทศไทย ทำงานร่วมกันกับ สปสช.มานานพอควร แต่ที่ชัดเจนที่สุดคือช่วงระบาดของโควิด -19 ประชาชนจะคุ้นชื่อร้านบู๊ทส์มากขึ้น จากการเป็นหน่วยบริการร่วมที่ดูแลคนไข้ โดยเฉพาะคนไข้ที่ต้องทำการกักตัวเองที่บ้าน จากนั้นก็ร่วมโครงการดีๆ กับ สปสช.อีก ทั้งการคัดกรองความดัน เบาหวานให้กับผู้ใช้สิทธิบัตรทอง และให้คำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลตัวเองจากเภสัชกรของบู๊ทส์

"พอได้ทำงานร่วมกันกับ สปสช. บู๊ทส์เองก็ภูมิใจนะ ยินดีอย่างมากที่ได้เข้าไปร่วมดูแลคนไทยอย่างเต็มที่กับภาครัฐ มีบางเคสในช่วงน้ำท่วม เราก็ไปดูแลสุขภาพให้กับผู้ประสบภัยทั้งครอบครัว เขาดีใจเพราะไม่ถูกทิ้งเรื่องสุขภาพ เราก็ดีใจเหมือนกันที่ได้ไปช่วยดูแล

“โครงการรับยาฟรีที่ร้านยา และบู๊ทส์ไปเข้าร่วมด้วยทั้ง 200 สาขา เราเน้นการให้บริการที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ จากการอบรมของสภาเภสัชกรรม ที่ให้การอบรมถึงมาตรฐานที่ชัดเจน สนับสนุนเครื่องมือในการบริการ เพื่อให้บู๊ทส์ได้เป็นอีกหนึ่งหน่วยบริการร่วมให้กับประชาชน" ภภ.ยศนันตวิต กล่าว

2

ฟังเสียงบู๊ทส์ กับโครงการรับยาฟรี ที่ร้านยา

Healtcare Director บู๊ทส์ ประเทศไทย ให้ภาพถึงโครงการรับยาฟรีที่ร้านยา 16 อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่บู๊ทส์เข้าร่วม ซึ่งจะมีทั้งเสียงชม และเสียงตำหนิตามมาแน่นอน แต่กระนั้น บู๊ทส์มองถึงภาพรวมของประโยชน์จากโครงการ ที่จะทำให้คนไทยสิทธิบัตรทอง 47 ล้านคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ที่มีคนถือสิทธิบัตรทอง 7 ล้านคน เข้าถึงการบริการสาธารณสุขจากอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย โดยได้รับการดูแลจากร้านยาได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมเข้ามาอีกคือการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองได้รับรู้ถึงโครงการนี้มากขึ้น โดยเฉพาะเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเปราะบางในสังคม ที่อาจจะยังเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสาร เพื่อให้กลุ่มต่างๆ เข้าถึงการบริการตามสิทธิ์บัตรทองได้มากยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน คือ มาตรฐานการให้บริการจากเภสัชกรในร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องได้รับการอบรม มีการกำกับให้เป็นไปตามมาตรฐานการบริการ

"บู๊ทส์ให้ความสำคัญกับเรื่องมาตรฐานบริการจากเภสัชกรมาก ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำกับเอาไว้ คนไข้เดินมาใช้สิทธิ ก็ต้องเช็คสิทธิ ต่อมาคือรายการของโรค รายการของยา ที่ตรงตามมาตรฐานเภสัชกรรม และเภสัชกรต้องโทรติดตามอาการผู้ป่วยในระะยะ 3 วันเพื่อดูว่าดีขึ้นหรือไม่ หรือติดตามการรักษาเพิ่มเติมอย่างไร" ภภ.ยศนันตวิต ย้ำ

สถานีต่อไป สุขภาพสตรีบัตรทอง-ฉีดยาในร้านยา

Healtcare Director บู๊ทส์ ประเทศไทย บอกกับเราอีกว่า ในอนาคตจะร่วมมือกับ สปสช.อีก โดยเฉพาะกับเรื่องสุขภาพของสุภาพสตรี ในสิทธิบัตรทอง

ที่จะมีทั้งชุดตรวจการตั้งครรภ์ การให้ยาคุมกำเนิดที่มีความหลากหลายตามระดับฮอร์โมนของร่างกาย ยาคุมฉุกเฉิน รวมไปถึง Folic acid ที่ช่วยอนามัยเจริญพันธุ์ในสตรี ซึ่งมีการเตรียมการเอาไว้แล้ว เมื่อโครงการเกิดขึ้น หน่วยบริการที่เข้าร่วมอย่างบู๊ทส์ก็พร้อมเช่นกัน โดยเฉพาะการส่งเภสัชกรของบูทส์ไปอบรมกับสภาเภสัชกรรม

"สปสช.เตรียมการ บู๊ทส์ก็เตรียมตัว" ภก.ยศนันตวิต ย้ำ

ที่น่าสนใจคือมูฟเมนต์ต่อไปของความร่วมมือ ภก.ยศนันตวิต ให้ข้อมูลกับ The Coverage ตอนท้าย อีกว่า ขณะนี้ยังรอความคืบหน้าของสภาเภสัชกรรม และสปสช. ที่กำลังพิจารณาให้หน่วยบริการที่เข้าร่วมสิทธิบัตรทอง ให้บริการฉีดยาได้ในร้านขายยา

หากสอดรับและร่วมงานกันได้ภายใต้มาตรฐานที่กำหนด บู๊ทส์ก็อาจเปิดให้บริการฉีดยาในร้านขายยาโดยเภสัชกร ซึ่งถือเป็นการเพิ่มเติมสิทธิทางสุขภาพให้กับคนไทยในอนาคตต่อไป