ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุงวันที่ 30 พ.ย. 2565 โดยมีสาระสำคัญใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1. ปรับการให้ยาต้านไวรัสในผู้ใหญ่ และในเด็ก ตามกลุ่มอาการต่างๆ 2. ปรับเพิ่มการให้ Long acting-Antibody (LABB)

สำหรับการปรับยาต้านไวรัสนั้น กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ให้ดูแลรักษาตามอาการ อาจพิจารณาให้ favipiravir เป็นเวลา 5 วัน ส่วนในหญิงตั้งครรภ์นั้น สามารถใช้ favipiravir ได้ในหญิงตั้งครรภ์ไตรมาส 2 และ 3 ถ้ามีข้อบ่งชี้และแพทย์พิจารณาแล้วว่าจะได้ประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง โดยมีการตัดสินใจร่วมกับผู้ป่วยและญาติ

ขณะที่การปรับเพิ่มการให้ Long acting-Antibody (LABB) แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักตัว 40 กิโลกรัม ขึ้นไป โดยขนาด LAAB ที่แนะนำเหมือนกับผู้ใหญ่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเพิ่ม LAAB เป็นยาในการรักษาโควิด-19 จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงยาราคาแพงได้มากขึ้น โดยยาดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 29,000 บาท/via

อนึ่ง สามารถอ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่นี่