ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ภาพบรรยากาศคณะผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย ทพ.อรรพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย ดร.ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการ สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร (กทม.) เยี่ยมชมบริการออกหน่วยรถโมบายสำหรับให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ ตรวจคัดกรองจากคลินิกทันตกรรมบางกอกสไมล์ สาขาพระโขนง ณ โรงเรียนนิธิปริญญา เขตดินแดง กทม. จำนวน 110 คน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 

สำหรับการให้บริการทันตกรรมส่งเสริมป้องกันเชิงรุกในโรงเรียนเอกชนพื้นที่ กทม. มีเป้าหมายในการตรวจคัดกรองในโรงเรียนสังกัดเอกชนทั้งหมด 98,400 คน โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค. นี้เป็นต้นไป  

อย่างไรก็ดี สปสช. มีโครงการบริการทันตกรรมเชิงรุกตามโรงเรียนอยู่แล้ว แต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาการให้บริการเป็นไปได้ยากขึ้น และถ้าสามารถนำรถทันตกรรมเคลื่อนที่ออกให้บริการตามโรงเรียนเพื่อให้เด็กได้รับบริการก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า บุคลากรในเขต กทม. มีข้อจำกัด เพราะคนที่ให้บริการได้จะต้องเป็นทันตแพทย์ หรือทันตาภิบาลที่ส่วนมากจะตั้งรับอยู่ในโรงพยาบาล จะเหลือเพียงแค่ทันตแพทย์ ทันตาภิบาลจากศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. จำนวน 69 แห่งเท่านั้นที่สามารถจัดบริการเชิงรุกได้ 

การออกหน่วยรถโมบายทันตกรรมเคลื่อนที่ที่คลินิกบางกอกสไมล์ ร่วมกับ สปสช.เขต 13 กทม. เพิ่งเริ่มต้นดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในเดือนนี้ โดยเน้นเรื่องการป้องกันเป็นหลัก เช่น การเคลือบฟลูออไรด์ การตรวจฟัน การเคลือบหลุมร่องฟัน ฯลฯ ซึ่งผู้ปกครองจะต้องรับทราบและยินยอมก่อน หากตรวจพบว่าเด็กมีฟันผุก็จะมีการแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเพื่อทำการรักษาต่อไป 

ทั้งนี้ การออกรถโมบายทันตกรรมเคลื่อนที่สำหรับการส่งเสริมและป้องกันเชิงรุกจะเริ่มนำร่องที่ กทม. ก่อน หากเริ่มตรวจเชิงรุกใน กทม. ซึ่งในขณะนี้มีรถทันตกรรมเคลื่อนที่แล้ว 2 คัน สำเร็จ หรือได้รับความนิยมก็จะมีการขยายออกไปทั่วประเทศ