ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ภาพบรรยากาศคณะผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. พร้อมด้วย นพ.สินชัย ต่อวัฒนกิจกุล รองเลขาธิการ สปสช. เดินทางไปที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานตามนโยบายโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ (Cancer Anywhere) ของเครือข่ายโรงพยาบาลมะเร็งอุบลราชธานี และ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี 

บริการมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ (Cancer Anywhere) เป็นหนึ่งในนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ สปสช. ในการยกระดับบัตรทอง เพื่อให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งได้รับบริการที่มีคุณภาพ ครอบคลุมการรักษา ทั้งผ่าตัด เคมีบำบัด รังสี ฮอร์โมน ในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการรักษาโดยเร็ว และสะดวกที่สุด 

อย่างไรก็ดี สำหรับรูปแบบการให้บริการคือ หากหน่วยบริการรับส่งต่อผู้ป่วยมีคิวรอรับบริการมะเร็งจำนวนมาก ผู้ป่วยก็สามารถไปหน่วยบริการข้ามเขต ข้ามจังหวัดได้ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เนื่องจากจะมีระบบลงข้อมูลของโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงกัน พร้อมกับนัดหมายเพื่อให้ผู้ป่วยได้พบแพทย์และทำการรักษา ทำให้ลดระยะเวลาการรอคอยรักษา และเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็วและได้ผลดีกว่าเดิม 

นอกจากนี้ การเดินทางของผู้ป่วยมะเร็งที่ไปรับบริการในหน่วยบริการต่างๆ แบบข้ามเขต หรือในหน่วยบริการเขตสุขภาพเดียวกันแต่คนละพื้นที่ คนละจังหวัด ค่าเดินทางอาจจะเป็นภาระให้กับผู้ป่วย บางรายเป็นภาระที่มากกว่าการไปรับการรักษาด้วย แต่ สปสช.มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง หากหน่วยบริการนำรถไปรับผู้ป่วย ก็สามารถเบิกจ่ายตามระเบียบของ สปสช.ได้ เพื่อลดภาระให้กับประชาชน

จากการดำเนินโครงการ มะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ (Cancer Anywhere) ตั้งแต่ปี 2564 ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 10 สามารถดำเนินงานตามตัวชี้วัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้บริการผ่าตัดในระยะ 4 สัปดาห์ได้ 74.20% จากตัวชี้วัด 75% สามารถให้การรักษาด้วยเคมมีบำบัดในระยะ 6 สัปดาห์ได้ 75.26% จากตัวชี้วัด 75% และผลงานเด่นคือสามารถให้บริการรักษาด้วยรังสีรักษาในระยะ 6 สัปดาห์ได้ 92.76% จากตัวชี้วัด 60% 

นอกจากนี้ มีผู้ป่วยมะเร็งเข้ารับบริการตามนโยบายมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ (Cancer Anywhere) ภายในเขตสุขภาพที่ 10 จำนวน 87,690 ครั้ง ไปรับบริการนอกเขต 899 ครั้ง สปสช.จ่ายค่าบริการชดเชยในเขตเป็นเงิน 610.86 ล้านบาท ขณะที่การชดเชยข้ามเขต 8.26 ล้านบาท