ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดปริมาณยาเสพติด หากครอบครองไม่เกินให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “มีไว้เพื่อเสพ” ไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง และพิจารณาให้รับการบำบัดรักษาแทนการรับโทษจำคุก


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 มีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2 หรือประเภท 5 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญคือกำหนดปริมาณยาเสพติดเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาให้โอกาสแก่ผู้เสพยาเสพติดที่ครอบครองยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์ไว้เพื่อการเสพ โดยไม่ถือเป็นโทษความผิดร้ายแรง และพิจารณาให้รับการบำบัดรักษาแทนการรับโทษจำคุก

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปริมาณยาเสพติดที่ถูกกำหนดเอาไว้ซึ่งจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อการเสพ ทั้งนี้ประกอบด้วย

- ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เช่น “เฮโรอีน” น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 300 มิลลิกรัม “เมทแอมเฟตามีน” ปริมาณไม่ถึง 15 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิไม่ถึง 1.5 กรัม หรือคำนวณเป็นน้ำหนักสารบริสุทธิ์ไม่ถึง 375 มิลลิกรัม ‘แอมเฟตามีน” หรือยาบ้า ปริมาณไม่ถึง 15 หน่วยการใช้ หรือมีน้ำหนักสุทธิ ไม่ถึง 1.5 กรัม 

- ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เช่น “โคคาอีน” น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 600 มิลลิกรัม “ฝิ่นยา” น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 15 กรัม 

- ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 น้ำหนักสุทธิไม่เกิน 135 กรัม  

- วัตถุออกฤทธิ์ ประเภท 1 เช่น “คาทิโนน” คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.5 กรัม “ไซโลซีน” ไม่เกิน 0.1 กรัม “ไซโลไซบีน” ไม่เกิน 0.1 กรัม และประเภท 2 เช่น “คีตามีน” คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 0.5 กรัม “ซูโดอีเฟดรีน” ไม่เกิน 5 กรัม และ “ไนตราซีแพม” ไม่เกิน 0.3 กรัม