ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. รุดลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลร้องเรียน รพ.บัตรทอง ไม่รับดูแลผู้ป่วยฟอกไตติดเชื้อโควิด ระบุข้อเท็จจริง รพ.ยังให้บริการผู้ป่วยต่อเนื่อง ประสานส่งต่อฟอกไตที่หน่วยบริการอื่นชั่วคราว เหตุ รพ.ไม่มีระบบห้องแยกเพื่อป้องกันติดเชื้อ หวั่นกระทบผู้ป่วยอื่น ขณะที่ผู้ป่วยมีปัญหาการเดินทาง ล่าสุดกลุ่มเส้นด้ายช่วยนำส่งผู้ป่วยรับการฟอกไตแล้ว ด้าน ผอ.รพ.อนันท์พัฒนา 2 เผย เป็นผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง รพ. ยังอยู่ในการดูแล เตรียมจัดพื้นที่บริการฟอกไตสำหรับผู้ป่วยโควิดเพิ่ม   


เผศ.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ ผอ.สปสช.เขต 13 กทม. พร้อมด้วย นางสาวดวงนภา พิเชษฐ์กุล. ผู้อำนวยการสำนักบริการประชาชนและคุ้มครองสิทธิ สปสช. ลงพื้นที่ รพ.อนันท์พัฒนา2 เพื่อตรวจสอบข้อมูลและทำความเข้าใจการให้บริการดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ในกรณีผู้ป่วยโรคไตและติดเชื้อโควิด19 โดยมี นายกานต์ ธรรมจำรัสศรี ผอ.รพ.อนันต์พัฒนา 2 และทีมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ร่วมให้ข้อมูล เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

1

ผศ.ภญ.ยุพดี กล่าวว่า ตามที่มีข่าวกรณีร้องเรียนผู้ป่วยชาย อายุ 48 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคไตระยะที่ 3 และติดเชื้อโควิด 19 สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง ถูกปฏิเสธการรักษาจากหน่วยบริการจนต้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเส้นด้ายนั้น ในวันนี้ สปสช.ได้ลงพื้นที่ รพ.อนันท์พัฒนา2 เพื่อตรวจสอบข้อมูลทันที ทราบว่าผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยบัตรทองและรับบริการฟอกไตที่ รพ.อนันท์พัฒนา2 เป็นประจำต่อเนื่องมาหลายปีอยู่แล้ว แต่เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทาง รพ. เกรงว่าจะมีปัญหาในเรื่องการป้องกันเชื้อที่อาจส่งผลต่อผู้ป่วยอื่นได้ เนื่องจาก รพ. ยังไม่มีการจัดพื้นที่และบริการรองรับล้างไตสำหรับกรณีที่ติดเชื้อโควิด ดังนั้นที่ผ่านมาพยาบาลที่ดูแลได้ประสานไปยังหน่วยล้างไตที่อื่นทันทีที่ทราบว่าผู้ป่วยติดโควิด เพื่อให้ผู้ป่วยเข้ารับการฟอกไต จึงทำให้ผู้ป่วยต้องรอและญาติเข้าใจว่าไม่มีใครดูแลแล้ว ซึ่งในวันนี้กลุ่มเส้นด้ายได้นำรถพาผู้ป่วยไปรับบริการฟอกไตที่ศูนย์การแพทย์กาญจนาแล้ว และนำมาส่งที่ รพ.อนันท์พัฒนา เพื่อดูแลต่อเนื่อง 

ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเรื่องปัญหาการเดินทาง ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถไปรับบริการฟอกไตที่หน่วยบริการอื่นได้สะดวก ซึ่ง สปสช. ได้รับเรื่องไว้เพื่อนำไปปรับปรุงระบบ อย่างไรก็ตามในส่วนของการดูแลผู้ป่วยโควิด มีรายการค่าใช้จ่ายเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดอยู่ รวมถึงการสนับสนุนค่ารถนำส่งที่ รพ.สามารถเบิกจ่ายจากระบบได้ ซึ่งจากการพูดคุยกับ ผอ.รพ.อนันท์พัฒนา2 จะมีการเร่งปรับสถานที่บริการล้างไตสำหรับผู้ป่วยโควิดต่อไป รองรับบริการกรณีที่โควิดจะเข้าสู่โรคประจำถิ่น สำหรับในส่วนของ สปสช.เองก็จะมีการนำปัญหานี้หารือเพื่อพัฒนาระบบต่อไป

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยรายนี้ สปสช. ต้องขอบคุณกลุ่มเส้นด้ายที่ได้ช่วยกันดูแล นำส่งผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยรายนี้เข้าถึงบริการฟอกไต 

2

นายกานต์ ธรรมจำรัสศรี ผอ.รพ.อนันต์พัฒนา2 กล่าวว่า ทาง รพ.ยังคงให้การดูแลผู้ป่วยรายนี้ เมื่อวานนี้ (26 ก.ค. 65) ในช่วงเย็นก็ยังมารับการรักษาที่ รพ. และรับยารักษาโควิด-19 กลับไป ซึ่งในส่วนของการฟอกไตนั้น เดิมผู้ป่วยก็มารับบริการที่นี่ แต่ช่วงที่ติดโควิดทำให้ต้องประสานเพื่อส่งไปรับบริการฟอกไตที่อื่นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากที่โรงพยาบาลไม่สามารถรองรับผู้ป่วยไตกรณีติดเชื้อโควิดได้ และอาจกระทบผู้ป่วยอื่นได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้ป่วยกลุ่มนี้มีไม่มาก และเมื่อผู้ป่วยรายนี้หายจากโควิดแล้วก็จะมารับบริการฟอกไตที่ รพ.เหมือนเดิม ยืนยันว่า รพ.ไม่ได้ทอดทิ้งผู้ป่วยและพร้อมให้การดูแลอย่างเต็มที่   

อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีการหารือร่วมกัน ต่อไป รพ.จะดำเนินการจัดให้มีการบริการฟอกไตสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด โดยจะจัดแยกพื้นที่และบริการไว้ โดยจะเร่งดำเนินการในการปรับสถานที่ การจัดเครื่องฟอกไต รวมถึงบุคลากรเพื่อรองรับอย่างเร่งด่วนต่อไป