ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภค เสนอ สปสช. เพิ่ม “ผ้าอนามัย” ลงในชุดสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค หนุนผู้มีประจำเดือนทุกสิทธิเข้าถึง


น.ส.อาทิตยา อาษา ผู้ช่วยเลขานุการอนุกรรมการด้านบริการสุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) เปิดเผยว่า ได้เสนอให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พิจารณาปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ “ผ้าอนามัย” ให้เป็นหนึ่งในชุดสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ซึ่งจะครอบคลุมประชาชนทุกคนทุกสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

น.ส.อาทิตยา กล่าวว่า การเสนอปรับเพิ่มชุดสิทธิประโยชน์ดังกล่าว เกิดขึ้นในเวทีรับฟังความคิดเห็นระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับประเทศ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2565 ซึ่งสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ร่วมกับเครือข่ายประชาชน 9 ด้าน และเครือข่ายผู้หญิงในระบบหลักประกันสุขภาพ เข้าร่วมเวทีดังกล่าว และได้ร่วมกันเสนอสิทธิประโยชน์ “ผ้าอนามัย” เพื่อให้ผู้มีประจำเดือนเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นและมีคุณภาพต่อการดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสม

“เนื่องจากผ้าอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่จำเป็นสำหรับผู้มีประจำเดือน ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้ผ้าอนามัยถูกบรรจุเป็นชุดสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทอง ซึ่งไม่เพียงช่วยยับยั้งและป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้มีประจำเดือน แต่ยังช่วยลดรายจ่ายด้านการรักษาพยาบาลในระบบสาธารณสุขด้วย” น.ส.อาทิตยา กล่าว

น.ส.อาทิตยา กล่าวว่า เหตุผลที่ควรทำให้ผ้าอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์สุขอนามัยจำเป็นขั้นพื้นฐานของผู้มีประจำเดือน เพราะการมีประจำเดือนไม่ใช่เรื่องปัจเจกบุคคล แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมิติทางเศรษฐกิจและสังคม 3 ประการ ได้แก่ 1. ภาวะอนามัยเจริญพันธุ์ 2. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเท่าเทียมทางเพศ 3. ภาระค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน

นอกจากนี้ จากการที่ผู้มีประจำเดือนไม่สามารถเข้าถึงผ้าอนามัยได้อย่างเหมาะสมและเพียงพอ เนื่องจากความขาดแคลนทางเศรษฐกิจ ยังทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและการติดเชื้อในช่องคลอด อาทิ โรคเชื้อรา โรคช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย หรือ อาจทำให้เกิดภาวะพิษในกระแสเลือด ส่งผลต่อสุขภาวะทางร่างกายและจิตใจได้

1