ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภาเภสัชกรรม เผยแพร่ข้อมูลเรื่อง “กัญชากับยาตีกัน!” ผ่านทางแฟนเพจ “สภาเภสัชกรรม : The Pharmacy Council” เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2565 โดยแจ้งเตือนถึงการใช้กัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม ที่อาจส่งผลกระทบกับยา สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ ที่กำลังรับประทานอยู่

สำหรับสาระสำคัญของคำเตือนจากสภาเภสัชกรรม ตอนหนึ่งระบุว่า กัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม อาจส่งผลกระทบกับยา สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ อื่นๆ ที่ท่านรับประทานอยู่ ดังนั้นหากท่านใดใช้ยา สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพอยู่ก่อน และมีความสนใจที่จะใช้กัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โปรดตรวจสอบหรือปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของทุกท่าน

สภาเภสัชกรรม ระบุอีกว่า กัญชาเป็นพืชสมุนไพรที่อยู่ในตำรายาไทยมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งการที่มีฤทธิ์เป็นยาเพราะกัญชามีสารจำนวนมากเป็นองค์ประกอบเช่น สารทีเอ็ชซี (THC) และสารซีบีดี (CBD) เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ การบริโภคกัญชาจึงเป็นการบริโภคสารต่างๆ เข้าไปในร่างกาย ซึ่งสารเหล่านี้ก็เหมือนกับยาทั่วไปที่เมื่อร่างกายได้รับจะกระจายไปออกฤทธิ์ตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดเป็นสรรพคุณต่างๆ ที่นำมาใช้เป็นยา

นอกจากนี้ สารที่อยู่ในกัญชา ก็เหมือนกับยาอี่นๆ คือจะต้องได้รับการเปลี่ยนสภาพและขจัดออกไปจากร่างกาย โดยอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนสภาพและขจัดได้แก่ตับและไตเป็นหลัก หากมีการบริโภคกัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชาร่วมกันกับยาอื่นๆ อาจเกิดสิ่งที่เราเรียกกันว่า “ยาตีกัน” ได้

กัญชา กับยาตีกัน

ดังนั้น ข้อมูลทางวิชาการและรายงานที่มีอย่างแพร่หลายในฐานข้อมูลวิชาการระดับนานาชาติได้แสดงให้เห็นว่า ภาวะ “ยาตีกัน” ของกัญชาอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น

- การใช้กัญชาร่วมกับยาที่มีฤทธิ์กดประสาทบางประเภทเช่น ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (benzodiazepine) ตัวอย่างเช่น diazepam หรือผู้ป่วยที่ใช้ยามอร์ฟีน อาจทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์กดประสาทมากเกินไปจนเกิดผลเสียได้
- หากผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชื่อ “ยาวาร์ฟาริน” ได้รับกัญชาเข้าไปอาจทำให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดมีระดับสูงขึ้น จนเกิดอาการเลือดออกและทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ นอกจากนี้ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดชนิดอื่นๆ ก็มีแนวโน้มที่อาจเกิดปัญหาคล้ายกันได้ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานในฐานข้อมูล 
- การใช้กัญชาร่วมกับยากันชักบางประเภท อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของระดับยากันชักและส่งผลกระทบต่อการรักษาได้ อาจจำเป็นต้องวัดระดับยากันชักในเลือด เพื่อปรับขนาดยาให้เหมาะสม 
- หากใช้กัญชาร่วมกันกับยาบางชนิดเช่น ยารักษาอาการซึมเศร้าบางชนิดเช่น ยาฟลูอ๊อกซิติน (fluoxetine) ยารักษาเชื้อรา (เช่นยา ketoconazole) ยารักษาโรคติดเชื้อบางประเภท (เช่นยา clarithromycin) หรือยาลดความดันโลหิตบางประเภท (เช่นยา verapamil) ยาเหล่านั้นอาจไปลดความสามารถของตับและไตในการเปลี่ยนสภาพและขจัดกัญชาออกจากร่างกาย ระดับของสารสำคัญในกัญชาจะสูงกว่าปกติได้หลายเท่าและนำไปสู่อาการเมา หรือเกิดอาการข้างเคียงได้ ทั้งๆ ที่บริโภคกัญชาในขนาดทั่วไป

ทั้งนี้โดยสรุปแล้ว กัญชาและผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมก็เป็นเหมือนยาอื่นๆ อาจส่งผลกระทบกับยา สมุนไพร และผลิตภัณฑ์สุขภาพ อื่นๆ ที่ท่านรับประทานอยู่ ดังนั้นหากท่านใดใช้ยา สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สุขภาพอยู่ก่อน และมีความสนใจที่จะใช้กัญชาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา โปรดตรวจสอบหรือปรึกษาแพทย์ หรือ เภสัชกร เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของทุกท่าน