ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ ประจำสัปดาห์ที่ 17 (วันที่ 24 - 30 เม.ย. 65) คาดมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกมาขึ้นจากการมีฝนตกฝนหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยเรียน แนะชุมชน-หน่วยงาน-ผู้ปกครอง กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ตามาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”


กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 16/2565 ประจำสัปดาห์ที่ 17 (วันที่ 24 - 30 เม.ย. 65) คาดว่าช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกได้มากขึ้น เนื่องจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้มีน้ำขังในภาชนะต่างๆ ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมไปถึงกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยเรียนที่อยู่บ้านในช่วงปิดเทอม ซึ่งมีโอกาสถูกยุงลายกัดในช่วงกลางวันได้

อย่างไรก็ดี จึงขอให้ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงผู้ปกครอง ช่วยกันกำจัดแหล่งพันธุ์ยุงลายบริเวณชุมชน และรอบบ้าน โดยเน้นมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

ประกอบด้วย 1. เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง ไม่มีบริเวณอับทึบให้ยุงลายเกาะพัก

2. เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บเศษภาชนะที่ต้องการทิ้งไว้ในถุงดำมัดปิดปากถุง และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

3. เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภคบริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว เปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ใส่ทรายกำจัดลูกน้ำหรือปล่อยปลากินลูกน้ำในภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ และเน้นการป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง และนอนในมุ้ง ซึ่งยังสามารถป้องกันได้ 3 โรค ประกอบด้วย 1. โรคไข้เลือดออก 2. โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3. โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา 

จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2565 ของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 20 เม.ย. 2565 พบผู้ป่วย จำนวน 1098 ราย เสียชีวิต 2 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อายุ 5-14 ปี รองลงมา คือ 15-24 ปี และเด็กแรกเกิด - 4 ปี ตามลำดับ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูง 5 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพมหานคร แม่ฮ่องสอน นครปฐม พัทลุง และราชบุรี ตามลำดับ

กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า หากบุตรหลานหรือคนในครอบครัวมีอาการไข้สูง ให้หลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเอง หากจำเป็นให้ใช้ยาพาราเซตามอล ห้ามใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสด เช่น ยาไอบรูโปรเฟน แอสไพริน หรือยาแก้ปวดไดโคลฟิแนก เพราะถ้าเป็นไข้จากโรคไข้เลือดออก ยากลุ่มนี้อาจมีผลทำให้เลือดออกมากขึ้น

ทั้งนี้ เมื่อรับประทานยาพาราเซตามอลแล้ว อาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422