ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ปณท.ดบ และ ธ.ก.ส. ผนึกกำลังร่วมจัดส่ง “ยาฟาวิพิราเวียร์” ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ระบบ Home Isolation ที่รอการดูแลในระบบ กรณีกลุ่มเสี่ยง/มีอาการตามเกณฑ์รับยา เพื่อผู้ป่วยได้รับยารักษาโดยเร็ว ลดภาวะเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต พร้อมเตรียมรับมือผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งหลังสงกรานต์  


ที่โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ ปากเกร็ด จ.นนทบุรี - เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แถลงข่าว “ความร่วมมือการจัดส่งยาฟาวิฟิราเวียร์ให้กับผู้ป่วยโควิด-19" เพื่อเป็นการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการและจำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ความร่วมมือของ 3 องค์กรที่เกิดขึ้นในวันนี้ มาจากความมุ่งมั่นเพื่อร่วมดูแลประชาชนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังคงเพิ่มสูง ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2565 มีจำนวนถึง 21,088 ราย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์แนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในส่วนของมาตรการรักษาพยาบาลตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ในกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียวที่มีอาการเล็กน้อย รักษาแบบ “ผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้าน” (เจอ แจก จบ) หรือรักษาที่บ้าน (Home Isolation) ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มเหลือง-สีแดง เข้าหลักเกณฑ์ UCEP Plus (เจ็บป่วยฉุกเฉิน) เข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่อยู่ใกล้ได้ 

อย่างไรก็ตาม ด้วยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีจำนวนมากนี้ทำให้เกิดปัญหาการเข้าถึงบริการ โดยในระบบ Home Isolation มีผู้ติดเชื้อที่ลงทะเบียนส่วนหนึ่งไม่ได้รับการติดต่อจากหน่วยบริการและรอการดูแลอยู่ในระบบ ที่ติดต่อกลับมายังสายด่วน สปสช. 1330 และช่องทางระบบออนไลน์ ดังนั้นเพื่อให้ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ได้รับการดูแล โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์โดยเร็ว สปสช.ได้จัดระบบติดต่อกลับผู้ป่วยกลุ่มนี้และทำการคัดกรองอาการตามหลักเกณฑ์ของกรมการแพทย์ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกร หากพบว่าผู้ติดเชื้อเริ่มมีอาการจำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ สปสช.ก็จะจัดส่งให้ผู้ติดเชื้อทันที โดยประสานความร่วมมือการจัดส่งยากับ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และการสนับสนุนงบประมาณการจัดส่งโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

“ด้วยศักยภาพการจัดส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด และการสนับสนุนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในครั้งนี้ จะทำให้ สปสช.ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับยาฟาวิพิราเวียร์อย่างทันท่วงที ลดอัดตราเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ ทั้งยังเป็นการวางระบบเพื่อรองรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังวันสงกรานต์นี้” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท.ดบ.) กล่าวว่า ปณท.ดบ. และ สปสช.มีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องในการดูแลผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากการจัดส่งน้ำยาล้างไตให้ผู้ป่วยที่ล้างไตผ่านช่องท้องทุกพื้นที่แล้ว ภายใต้สถานการณ์โควิด-19  ปณท.ดบ.ได้ร่วมดำเนินการโครงการพัฒนาระบบบริการจัดส่งยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทางไปรษณีย์ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการจัดส่งยาจากหน่วยบริการให้กับผู้ป่วยที่บ้าน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด และในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ ปณท.ดบ. มีความยินดี ในการร่วมจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ในอัตราค่าบริการส่งพัสดุ 25 บาท/พัสดุ/ทั่วประเทศ
โดยการจัดส่งของ ปณท.ดบ. มีระบบจัดส่งยาให้ถึงมือผู้ป่วยได้ในวันเดียว เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาโดยเร็วที่สุด 

นายไพศาล หงษ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศเป็นวงกว้างในทุกด้าน แต่ละวันมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรและทุกภาคีจึงต้องร่วมกันผนึกกำลัง ซึ่ง ธ.ก.ส.ในฐานะสถาบันทางการเงินของคนไทยมีความยินดีอย่างยิ่งในความร่วมมือกับทาง สปสช.และ ปณท.ดบ. โดยสนับสนุนค่าบริการจัดส่งยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยโควิด-19 ในครั้งนี้ในวงเงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ให้ได้รับยารักษาอย่างทันท่วงที นับเป็นความร่วมมือของ ธ.ก.ส. ในการร่วมดูแลชีวิตคนไทยให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ 

ทั้งนี้หลังจากแถลงข่าว บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณท.ดบ.) รับยาฟาวิพิราเวียร์จาก สปสช.และส่งยาให้กับผู้ป่วยในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยก่อนการส่งยาได้มีการโทรศัพท์หาผู้ป่วยเพื่อประเมินอาการก่อนรับยา 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso