ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะนำ 2 สมุนไพร "ย่านาง-หญ้าหนวดแมว" ช่วยลดกรดยูริก-บรรเทาอาการ "ปวดเกาต์" ช่วงเทศกาลตรุษจีน แนะปรุงเป็นอาหาร-เครื่องดื่ม รับประทานเพื่อบรรเทาอาการได้


นพ.ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน วันตรุษจีนในปีนี้ตรงกับวันที่ 1 ก.พ. 2565 โดยวันดังกล่าวครอบครัวชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนจะเตรียมอาหารคาวหวาน เพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และกราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม อาหารส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารประเภทที่มีแป้ง ไขมัน และมีน้ำตาลค่อนข้างสูง ได้แก่ หมู เป็ด ไก่ อาหารทะเล ขนมต่างๆ และสุราจีน เป็นต้น ซึ่งอาหารดังกล่าวถ้ารับประทานมากอาจจะก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการรับประทานสัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด การรับประทานเนื้อสัตว์ เนื้อแดง เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล ยอดผัก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่ผสมฟรุกโตส และนมที่มีไขมันสูง

"อาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้จะเพิ่มระดับกรดยูริกในเลือด ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์โดยตรง กรมการแพทย์แผนไทยฯ จึงขอแนะนำ 2 สมุนไพรไทย ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดเกาต์ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ ย่านาง และหญ้าหนวดแมว โดยสมุนไพรทั้ง 2 ชนิดนี้ สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มในรูปแบบชาสมุนไพร เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อจากโรคเกาต์ในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้" นพ.ธิติ กล่าว

สำหรับ ย่านาง เป็นสมุนไพรในกลุ่มลดไข้ ขับปัสสาวะ และช่วยล้างพิษ ตามองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งจากข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ยังพบว่า น้ำใบย่านางมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต และลดการอักเสบในร่างกายได้ ส่วนหญ้าหนวดแมว มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ไขมัน และน้ำตาลในเลือด อีกทั้งยังช่วยลดกรดยูริกในเลือด ช่วยลดนิ่วที่เกิดจากกรดยูริกได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดอาการปวดเกาต์ได้ แต่มีข้อห้ามสำหรับผู้ที่มีการทำงานของหัวใจหรือไตบกพร่อง

นพ.ธิติ กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคเกาต์ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน ควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งจะช่วยลดระดับกรดยูริกและลดความเสี่ยงจากโรคอื่นๆ ที่จะตามมา เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง โดยผู้ที่มีโรคประจำตัวดังกล่าวควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งควรดื่มน้ำเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง

อนึ่ง หากประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือก หรือการใช้ยาสมุนไพรในการรักษาโรคฯ สามารถสอบถามโดยตรงได้ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 02-149-5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่เฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/dtam.moph และไลน์แอด @DTAM