ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ระบบสุขภาพของ “แคลิฟอร์เนีย” กำลังเดินมาถึง “จุดเปลี่ยนสำคัญ” เมื่อ ร่างกฎหมายระบบประกันสุขภาพแบบกองทุนเดี่ยว หรือ A.B. 1400 หรือ CalCare กำลังจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะกรรมธิการกฎหมายสาธารณสุขภายในสัปดาห์หน้า

หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านการพิจารณาและมีผลบังคับใช้ จะเท่ากับเป็นการเกิดขึ้นของ “ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าระบบแรกของสหรัฐอเมริกา” ด้วย

นั่นทำให้เสียงเชียร์จากชาวแคลิฟอร์เนียส่งผ่านออกมาอย่างชัดเจน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ขบวนคาราวานรถยนต์จำนวนมากได้กระจายตัวออกไปทั่วทุกมุมเมือง เพื่อสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้

สำหรับร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เป็นร่างกฎหมายที่กำหนดให้การบริการทางสาธารณสุขทั้งหมด ตั้งแต่ป้องกันไปจนถึงรักษาเป็น “สิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยไม่เลือกปฏิบัติตามเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น

จะเป็นพลเมืองทั่วไปหรือเป็นผู้อพยพก็ได้รับสิทธิเท่ากัน จากนี้จะไม่ต้องร่วมจ่าย หรือสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 ร่างกฎหมายสนับสนุน CalCare อย่าง Assembly Constitutional Amendment (ACA) 11 ก็ได้ถูกนำเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติของรัฐโดยสมาชิกสภาอย่าง “แอช คาลร่า” และ “อเล็กซ์ ลี” ซึ่งเป็นสองผู้สนับสนุนสำคัญของ CalCare

โดย ACA 11 จะเป็นร่างกฎหมายที่กำหนดว่า แหล่งที่มาของเงินทุนที่จะใช้ใน CalCare จะมาจากภาษีส่วนใดบ้างที่จัดเก็บในรัฐ

การเสนอร่างฯ ACA 11 นี่เองที่ทำให้ CalCare อันเคยถูกตั้งคำถามอย่างมากในสภานิติบัญญัติว่าจะใช้เงินจากไหนมาสนับสนุนการบริการสุขภาพขนาดใหญ่ จนทำให้ถูกระงับการพิจารณาไว้ในช่วงที่ผ่านมา สามารถผ่านที่ประชุมฯ และเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาโดยคณะกรรมธิการกฎหมายสาธารณสุขในที่สุด

การปรากฏตัวของขบวนคาราวานกว่า 15 ขบวน ทั่วทั้งรัฐ ทั้งในซานดิเอโก้ ยูเรก้า หรือแม้กระทั่งสมาคมพยายาบาลแห่งแคลิฟอร์เนีย (California Nurses Association – CNA) ก็จะจัดคาราวานรถยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นในเมืองหลวงของแคลิฟอร์เนียอย่าง “ซาคราเมนโต” ถือเป็นการแสดงออกว่าประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียนั้นสนับสนุนให้ร่างกฎหมาย CalCare จริง

แอช คาลร่า ได้กล่าวในถ้อยแถลงต่อสภานิติบัญญัติแคลิฟอร์เนียว่า ร่างฯ A.B. 1400 และ ACA 11 จะทำให้ประชาชนสามารถรับรู้และเข้าใจได้ว่าพวกเขาจะคาดหวังอะไรได้บ้างจากระบบหลักประกันสุขภาพที่สนับสนุนโดยสาธารณะอย่างแท้จริง และให้พวกเขาได้เลือกว่าจะพวกเขาจะใช้บริการอะไร ระหว่างการจ่ายให้กับประกันสุขภาพที่ใช้กันอยู่ทั่วไปแต่แพงที่สุดในโลกและให้บริการได้แย่ที่สุด หรือพวกเขาจะหันมาสนับสนุน CalCare ที่สนับสนุนบริการสุขภาพที่ดีที่สุดให้กับทุกๆ คน

“พวกที่หากำไรจากความก่ำกึ่งของจริยธรรมและจรรยาบรรณอาจจะไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของแคลิฟอร์เนียจะเห็นประโยชน์จากการประหยัดค่าประกันสุขภาพที่ไม่ค่าใช้จ่ายไม่สมเหตุสมผล ยาเข้าถึงได้ และการที่ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลราคาแพงให้กับโรงพยาบาลอีกต่อไป” คาลล่า ระบุ

ด้าน ไมค์ โบนิน สมาชิกสภาเมือง “ลอสแองเจิลลิส” หนึ่งในฝากฝั่งของสมาชิกสภาเมืองจำนวนมากหลายต่อหลายเมืองที่สนับสนุนร่างฯ CalCare ได้กล่าวว่า ระบบประกันสุขภาพแบบกองทุนเดี่ยวถูกชะลอมานานเกินไปแล้ว และในขณะที่ทุกคนในประเทศกำลังผลักดันให้ Medicare (หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของผู้สูงอายุและผู้พิการ) ให้ครอบคลุมทุกคนมากขึ้นกว่าเดิม แคลิฟอร์เนียสามารถที่จะก้าวมาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นได้

“ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไม่ควรที่จะทำให้ผู้คนต้องล้มละลาย ถังแตก หรือต้องไปนอนข้างถนน กฎหมาย A.B. 1400 จะทำให้ผู้คนกว่า 3 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพใดๆ เลย ได้รับการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและครอบคลุม ที่ผ่านมาเราต่อสู้เพื่อค่าแรงขั้นต่ำ และภาวะโลกร้อนกันมาแล้ว ในเรื่องสุขภาพนี้ ชาวแคลิฟอร์เนียก็ทำได้เช่นเดียวกัน” โบนิน ระบุ

สอดคล้องกับ เชิง เถา สมาชิกสภาเมืองโอ๊คแลนด์และว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี ที่ระบุว่า ในเมืองโอ๊คแลนด์ ปัญหาใหญ่ที่สร้างผลกระทบต่อชุมชน “BIPOC” (Black - คนผิวดำ, Indigenous - ชนพื้นเมือง,  Other people of color – ชนผิวสีอื่นๆ) คือความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงบริการสาธารณสุข

โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมือง ดังนั้นเพื่อยุติปัญหานี้ให้จงได้ รัฐแคลิฟอร์เนียต้องก้าวขึ้นมาสนับสนุน ต้องให้บริการสาธารณสุขเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และไม่ควรมีใครต้องล้มละลายเพราะค่ารักษาพยาบาลที่แพงเกินจริง ระบบสาธารณสุขต้องให้ความสำคัญกับผู้คนมากกว่ากำไร

“สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ คือการที่พวกเขา (สภานิติบัญญัติแคลิฟอร์เนีย) ผ่านกฎหมาย A.B. 1400 ให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อที่จะทำให้ระบบสาธารณสุขมีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับประชาชนทุกคน เถา กล่าว

จากกระแสที่เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่า บรรดานักการเมืองและนักเคลื่อนไหวท้องถิ่นจำนวนไม่น้อยที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นก็คือการที่รัฐแคลิฟอร์เนียจะต้องแก้ปัญหาด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพและทำให้มันเป็นสิ่งที่ครอบคลุมไปในทุกๆ ประชากรด้วยการเป็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

สเตฟานี โรเบิร์ตสัน ผู้อำนวยการฝ่ายภาครัฐสัมพันธ์ของ CNA กล่าวว่า ในปี 2022 นี้ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือการพุ่งสูงขึ้นของการร่วมและสำรองจ่ายในค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของชาวแคลิฟอร์เนีย ดังนั้นเราต้องช่วยกันทำให้ชาวแคลิฟอร์เนียไม่จำเป็นต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วติดหนี้ หรือต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน

ด้านนักเคลื่อนไหวอย่าง เอดี้ บาร์คาน ผู้ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบุว่า สังคมของเราได้รับผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 ก็เป็นเหตุมาจากระบบสาธารณสุขที่ถูกสร้างมาเพื่อสนใจแต่เพียงกำไร สนใจเพียงแค่ความร่ำรวยส่วนบุคคลมากกว่าสุขภาวะสาธารณะ

“ผู้นำรัฐของเราต้องรับฟังทุกเมือง ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เพราะพวกเขาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักวิกฤตทางด้านสาธารณสุข การบริการทางด้านสุขภาพของผู้คนต้องครอบคลุมและทั่วถึงสำหรับทุกคน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากร่างฯ A.B. 1400 บาร์คาน กล่าว

อย่างไรก็ดี รองผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เกวิน นิวซัม จากพรรคเดโมแครต ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงที่หาเสียงเลือกตั้ง ได้สนับสนุนระบบประกันสุขภาพแบบกองทุนเดี่ยวเสมอมา กลับถูกสังคมมองว่าแสดงท่าทีวางเฉยต่อกระแสการเรียกร้องสนับสนุน CalCare

“ผมไม่รู้ว่ามันต้องทำอย่างไร เพราะไม่เคยมีใครทำมันมาก่อน แต่ผมเชื่อว่ามันก็คงจะทำได้ ถ้ารัฐใดรัฐหนึ่งได้ลองทำให้สำเร็จ ซึ่งผมก็คิดว่าเราทำได้ และผมก็พร้อมที่จะไปมีส่วนร่วม” นิวซัม ระบุ

ในเวลานี้ กว่า 26 เมือง และเทศมณฑลซานตาคลารา ได้ออกมาสนับสนุนร่างฯ CalCare เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนอกจากนี้ยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น California Democratic Party, California Labor Federation, Public Citizen, และ Democratic Socialists of America (DSA) เป็นต้น ก็ได้ออกมาสนับสนุนให้ร่างฯ CalCare ผ่านออกมาเป็นกฎหมายจริงๆ ในที่สุด

ดร.แฮมิน โช เลขาธิการและประธานร่วมของ the Progressive Democrats of America's San Francisco chapter รวมถึงเป็นหนึ่งในผู้ร่าง CalCare ระบุว่า แม้ประเทศสหรัฐอเมริกาจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่ก็ยังเป็นประเทศร่ำรวยและพัฒนาแล้วประเทศเดียวในโลกที่ยังไม่มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

“การมีหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้กับทุกๆ คนโดยไม่สนใจว่าพวกเขาเป็นพลเมืองอเมริกันหรือไม่อย่างไร จะสามารถทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวผมดีและปลอดภัยมากกว่าที่เคยเป็นในช่วงที่เราเป็นผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร

“CalCare จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อที่จะทำให้ทุกๆ ครอบครัวปลอดภัยจากปัญหาทางการเงินที่จะมาจากความเจ็บป่วยต่างๆ มันจะสามารถรักษาชีวิตของผู้คนไว้ได้ พร้อมๆ กับสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปในตัว” ดร.โช กล่าว

ดร.โช ยังระบุอีกว่า โรคระบาดในเวลานี้เป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้เห็นว่าประกันสุขภาพที่มีกันโดยทั่วไปนั้นมันล้าสมัย ไม่เพียงพอ และอันตรายเกินไป

“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องตระหนักถึงการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขในฐานะส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และแคลิฟอร์เนียจะสามารถเป็นผู้นำในเรื่องนี้ได้ด้วย CalCare ดร.โช ระบุ

อ้างอิง
https://www.commondreams.org/news/2022/01/07/caravans-across-california-set-hit-road-states-single-payer-bill-advances?utm_term=Autofeed&utm_campaign=echobox&utm_medium=Social&utm_source=Facebook#Echobox=1641599779
https://a27.asmdc.org/press-releases/20220106-assemblymember-ash-kalra-california-nurses-association-highlight-ab-1400
https://events.medicare4all.org/?startDate=2022-01-08&endDate=2022-01-15
https://leginfo.legislature.ca.gov/faces/billNavClient.xhtml?bill_id=202120220AB1400
https://leginfo.legislature.ca.gov/faces/billTextClient.xhtml?bill_id=202120220ACA11
https://www.commondreams.org/news/2021/04/23/california-single-payer-bill-shelved-advocates-call-newsom-take-lead-medicare-all
https://calmatters.org/politics/2021/02/newsom-single-payer-health-care-dilemma/