ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่ประชุม ครม.รับทราบผลการดำเนินงาน "เขตสุขภาพเพื่อประชาชน" ปี 60-64 พบผลลัพธ์การแก้ไขประเด็นปัญหาด้านสุขภาพ สร้างรูปธรรมการดูแลกลุ่มเปราะบาง-อาหารปลอดภัย-ลดอุบัติเหตุทางถนน


ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2564 ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติรับทราบ รายงานการประเมินผลการดำเนินงานของเขตสุขภาพเพื่อประชาชน ปีงบประมาณ พ.ศ.2560-2564 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ คณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) ต่อไป ตามที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) เสนอ

สำหรับสาระสำคัญของรายงานดังกล่าว กขป.เขตพื้นที่ 1-13 ได้วิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์ปัญหาในเขตพื้นที่ และร่วมกันกำหนดประเด็นการขับเคลื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ เขตพื้นที่ละ 3-5 ประเด็น โดยปัจจุบันมีประเด็นขับเคลื่อนรวมทั้งสิ้น 55 เรื่อง จำแนกเป็นหมวดหมู่ ประกอบด้วย อาหารปลอดภัย ขยะ อุบัติเหตุ หมอกควัน ปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ โรคติดต่อเรื้อรัง ระบบบริการสาธารณสุข ระบบสุขภาพชุมชน การจัดการน้ำ ระบบข้อมูลสารสนเทศ สุขภาวะพระสงฆ์ กลุ่มเด็กและเยาวชน กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สูงอายุ

ขณะที่ผลการประเมินจาก สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พบผลลัพธ์การดำเนินงานของ กขป. ว่าสามารถบรรลุตามผลลัพธ์ที่กำหนดไว้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพในเขตพื้นที่ เช่น ประเด็นสุขภาวะกลุ่มชาติพันธุ์และกลุ่มเปราะบางทางสังคม กขป.เขตพื้นที่ 12 มีการจัดตั้งศูนย์สร้างสุขชุมชนเพื่อให้บริการสุขภาพใกล้บ้าน สร้างห้องเรียนสวนผักชุมชนให้ชาวบ้านและสร้างอาชีพให้กลุ่มเปราะบาง รวมทั้งจัดทำระบบข้อมูลกลางผ่านแอพพลิเคชัน iMed@home เพื่อบูรณาการข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงสิทธิด้านต่างๆ ของกลุ่มเปราะบางทางสังคม

ในส่วนของประเด็นอาหารปลอดภัย กขป.เขตพื้นที่ 4-10 และ 12 มีเครือข่ายและพื้นที่รูปธรรมอาหารปลอดภัยในชุมชน มีนโยบายการขยายโรงพยาบาลอาหารปลอดภัยไปสู่ชุมชน มีมาตรฐานอาหารปลอดภัย รวมทั้งแพลตฟอร์ม Green smile เป็นพื้นที่ในการประสานความร่วมมือของเกษตรกรรายย่อยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือประเด็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน กขป.เขตพื้นที่ 4-5, 10 และ 13 ได้จัดทำธรรมนูญสุขภาพพื้นที่ ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมของชุมชนว่าด้วยการลดอุบัติเหตุ มีฐานข้อมูลการป้องกันและลดอุบัติเหตุภัยทางถนน เป็นต้น

พร้อมกันนี้ยังมีข้อค้นพบสำคัญคือ กรรมการผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานรัฐ มีแนวโน้มการมีส่วนร่วมในการประชุมน้อย ส่งผลให้การบูรณาการขับเคลื่อนงานเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพในเขตพื้นที่เป็นการทำงานของ กขป. ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนและภาคประชาสังคม อีกทั้งกรรมการผู้แทนหน่วยงานส่วนใหญ่ไม่มีเครือข่าย หรือโครงสร้างรองรับการสื่อสารประเด็นเพื่อขับเคลื่อนงานจากที่ประชุมระดับเขตเข้าสู่โครงสร้างของหน่วยงานในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ทำให้การบูรณาการภารกิจและบทบาทหน้าที่เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบยังไม่เกิดขึ้นมากนัก รวมทั้งยังไม่สามารถผลักดันเป็นนโยบายของหน่วยงานภาครัฐได้

ขณะเดียวกันยังพบว่าปัจจัยความสำเร็จของเขตสุขภาพเพื่อประชาชนมี 4 ประการ ประกอบด้วย 1. ความเข้าใจเรื่องบทบาทหน้าที่ของ กขป. 2. องค์ประกอบและการมีส่วนร่วมของ กขป. 3. การบูรณาการการทำงานของเลขานุการร่วม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) 4. ระบบข้อมูลการดำเนินงานของ กขป. และองค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อเสนอแนะสำหรับพัฒนา คือ 1. หน่วยงานระดับกระทรวงควรให้ความสำคัญในการมอบหมายผู้แทนที่รับผิดชอบการขับเคลื่อนงานระดับเขตหรือกลุ่มจังหวัด เป็นกรรมการผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานรัฐ 2. หน่วยงานระดับกระทรวงควรสนับสนุนให้กรรมการผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานรัฐแต่ละเขต เข้าร่วมและบูรณาการการทำงานร่วมกับ กขป. และองค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 3. ควรสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงระบบ โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดจากระบบไม่เอื้ออำนวย ไม่บูรณาการกัน เพื่อชี้ช่องว่างให้เห็นข้อจำกัดเชิงระบบ

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้ให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับข้อเสนอของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป