ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชายนามว่า “เจสัน ลิตเติ้ล” กลายเป็นชายคนแรกของโลกที่ได้รับ อวัยวะเทียม ซึ่งสร้างขึ้นจากความก้าวล้ำของเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยมีการใส่ระบบประสาทเทียมเข้าไปในแขน และเชื่อมต่อระบบประสาทเข้ากับสมอง

หลังจากการผ่าตัด เจสันพร้อมทั้งแขนและประสาทเทียมของเขา กลับมามีความรู้สึกและสามารถใช้งานได้ดังเดิมอย่างมหัศจรรย์

ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2011 ระหว่างขับรถฝ่าพายุอยู่บนถนนระหว่างรัฐในฟลอริด้า รถของเขาเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุ ผลที่เกิดขึ้นคือเจสันเสียแขนสายตั้งแต่ศอกลงไป ผ่านไป10 ปีเต็ม เจสันได้แขนซ้ายของเขากลับมาอีกครั้งด้วยอวัยวะเทียมที่มีการใส่เส้นประสาทเทียมเข้าไปด้วย

แขนซ้ายของเขากลับมาใช้ได้ดังเดิม และที่สำคัญคือมันกลับมามี “ความรู้สึก” แบบที่แขนของมนุษย์ทั่วไปควรจะเป็น เขาสามารถ “รู้สึก” ถึงสัมผัสของการกุมมือภรรยาของเขาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

นี่เป็นผลงานของทีมวิจัยจาก Florida International University’s (FIU) Department of Biomedical Engineering นำทีมโดย ด็อคเตอร์รานุ ยุง ที่ได้ยื่นข้อเสนอให้กับเจสันว่า เขาสนใจที่จะเป็นอาสาสมัครทดลองเทคโนโลยีใหม่ชิ้นนี้หรือไม่

แน่นอน เจสันตกปากรับคำเป็นอาสาสมัครในเกือบจะทันที หลังจากที่ตลอดเวลาหลายปี เจสันต้องใช้ชีวิตกับแขนซ้ายเทียมธรรมดา

เจสันต้องผ่านขั้นตอนหลายประการ ทั้งการประเมินสภาพร่างกายและสมอง ประเมินความเสี่ยง และการผ่าตัดตามจุดต่างๆ เพื่อซ่อมแซมแขนที่พิการอยู่เดิม จนวันที่ 19 มี.ค. 2018 เขาก็เข้ารับการผ่าตัดอันยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง เพื่อทำการใส่ประสาทเทียมเข้าไปสู่แขนส่วนบนของ และทำการเชื่อมต่อประสาทเทียมเข้ากับสมอง

จากนั้นเป็นเวลากว่า 2 ปี ที่เจสันต้องเดินทางไปกลับระหว่างบ้านและออร์แลนโด เมืองที่ตั้งของ FIU เพื่อทำการวิจัยและรักษา โดยทีมวิจัยทำการเชื่อมต่อเจสันเข้ากับคอมพิวเตอร์และทดลองส่งสัญญาณไปที่ประสาทเทียมของเขา ซึ่งสิ่งที่เกิดกับเจสันคือ เขารู้สึกได้เลยว่ามีความรู้สึกบางอย่างได้เกิดขึ้น เขามีความรู้สึกผ่านประสาทเทียมได้จริงๆ

ทีมวิจัยจึงได้เริ่มทำการวางโครงร่างเส้นประสาทในบริเวณส่วนล่างของแขนไปจนถึงมือของเจสัน ซึ่งเป็นส่วนที่หายไปแล้วขึ้นมา และนอกจากจะเริ่มทำการโครงขึ้นมาใหม่แล้ว ระหว่างการวิจัยรักษา อาการปวดหลอน (Phantom Pain) ของเจสันก็ค่อยๆ หายไปอีกด้วย

เมื่อโครงร่างเสร็จ ก็ถึงเวลาของการสร้าง “แขน” ใหม่

ระบบประสาทเทียมที่ใส่เข้าไปในแขนของเจสันนั้น ทำให้เขาเหมือนกลับมามีแขนใหม่อีกครั้ง เจสันสามารถที่จะรู้สึกได้ถึงสัมผัส สามารถที่จะรู้ถึงขนาดของวัตถุที่เขาถืออยู่ สามารถแบมือ กำมือ หยิบ จับ รู้สึกถึงการสั่นไหว แม้กระทั่ง “จั๊กกะจี้” ได้เหมือนกับมือ และแขนจริง ๆ ที่เชื่อมระบบประสาทเข้ากับสมองโดยธรรมชาติ

เจสัน ลิตเติ้ล กล่าวถึงชีวิตใหม่ของเขา “ผมไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณด็อคเตอร์ยุงและทีมของเขาอย่างไรถึงจะหมดสิ้นที่ให้ผมเข้ามาร่วมทดสอบในงานชิ้นนี้ การที่เป็นคนแรกของสิ่งนี้มันท้าทายมาก แต่อวัยวะเทียมที่พวกเขาสร้างให้ผมนั้นทำให้ผมสามารถทำในสิ่งที่ผู้พิการคนอื่นๆ ไม่สามารถทำได้

“ทำให้ผมใกล้เคียงกับการเป็นคนปกติอีกครั้ง ผมที่สามารถมีความรู้สึกอีกครั้ง สามารถที่จะหั่นมะเขือเทศโดยที่ไม่เละเทะอีกต่อไป เปิดขวดน้ำได้เองโดยที่ไม่หก และที่สำคัญที่สุด ผมรู้สึกถึงมือของภรรยาผมได้อีกครั้ง”

“หลายต่อหลายครั้งผมก็สงสัยตัวเองว่ามันคุ้มจริงหรือที่ต้องมาเสียเวลากับอะไรแบบนี้ แต่ผมก็เลือกที่จะอยู่กับมันมากว่า 2 ปีจนจบ และในตอนนี้ ผมก็อยากจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนให้สู้กับภาวะและสถานการณ์แบบนี้ ภาวะที่วุ่นวายใจที่สุด ความกล้าที่จะทำสิ่งเหล่านั้นวันหนึ่งมันจะส่งผลอันยอดเยี่ยมกลับมาทั้งตัวเราและผู้คนรอบตัว”

“นี่คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จะเปลี่ยนชีวิตทุกคนที่กำลังประสบความยากลำบากทั่วโลก นี่คือตำนาน และผมก็ภูมิใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตำนาน”

หลังจากความสำเร็จกับ เจสัน ลิตเติ้ล ทีมวิจัยกำลังพัฒนาเรื่องนี้ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยกำลังมุ่งเน้นไปสู่มือเทียมใหม่ที่ดีกว่าเดิม สามารถเป็นมือที่ “มีชีวิต” ได้จริงยิ่งกว่าที่เคย นอกจากนี้ยังจะนำหลักการนี้ไปใช้กับเรื่องทางการแพทย์อื่นๆ อีกด้วย เช่นการสร้างอุปกรณ์ที่เชื่อมระบบประสาทเพื่อทำการตรวจจับความผิดปกติของอินซูลินในอาการเบาหวานเป็นต้น

อ้างอิง