ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สบช.สัญจร” สนับสนุนเด็กต่างจังหวัดได้เรียนสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ให้โควตาเรียน “พยาบาล-สาธารณสุข” รวม 6,000 ที่นั่ง


ศ. (พิเศษ) ดร. นพ.วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก เปิดเผยกับ “The Coverage” ตอนหนึ่งว่า เดิมสถาบันพระบรมราชชนกเป็นวิทยาลัย (สบช.) แต่ปัจจุบันได้ยกระดับเป็นมหาวิทยาลัยที่ผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ มีทั้งหลักสูตรพยาบาล และสาธารณสุข เพื่อกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย ถือเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อชุมชน ตามพระปณิธานของสมเด็จพระบรมชนก กับสมเด็จพระบรมราชชนนี ที่ต้องการดูแลประชาชนทั่วประเทศ ให้การศึกษากับท้องถิ่น

สำหรับจุดแข็งของ สบช. คือการมีมหาวิทยาลัยกระจายอยู่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นด้านพยาบาล 30 แห่ง สาธารณสุข 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 13 เขตสุขภาพ สามารถผลิตบุคลากรด้านพยาบาลได้ประมาณปีละ 4,000 คน ด้านสาธารณสุขประมาณ 1,000 คน และมีอาจารย์จบปริญญาเอกอีกประมาณ 400 กว่าคน

อย่างไรก็ตาม ภาวะความเจริญของเทคโนโลยีดิสรัปชั่น (DISRUPTION) ตลอดจนโควิด-19 ทำให้มีปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคม การเดินทาง ความเป็นอยู่ และการศึกษา ทำให้โอกาสเข้าถึงยากกว่าสมัยก่อน ยิ่งปัจจุบันมีเด็กเกิดน้อยลง เด็กที่เข้าถึงการศึกษาจะน้อยลงกว่าเดิม การบริการจึงต้องเข้าถึงเชิงรุก

ทั้งนี้ สบช. จึงได้จัดทำโครงการ “สบช.สัญจร” เพื่อให้เด็กในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร สามารถเข้าถึงการศึกษา ทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน โดยมีหลักการคือเข้าถึงประชาชน-ชุมชนในทุกจังหวัด มีพื้นที่เป้าหมายคือโรงเรียนมัธยม 800 แห่งทั่วประเทศ

“เราจะแก้ปัญหาเจ็บ จน โง่ ได้ต้องมีการศึกษา ทำยังไงเราจะให้โอกาสเด็กได้ศึกษา เราจึงจัดทำโครงการ “สบช.สัญจร” กระจายไป 13 เขตสุขภาพ สิงห์บุรีเป็นจุดแรกที่เริ่มโครงการ เพื่อจะศึกษากระบวนการเข้าถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก มีโรงเรียนในสิงห์บุรีที่ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ 12 โรงเรียน และมีการเซ็น MOU 4 ปี ให้โควตาพยาบาล 5 คน ต่อ 1โรงเรียน สาธารณสุข 1-2 คน ต่อ 1 โรงเรียน โดยเรามีหลักสูตรปริญญาตรีประมาณ 10 หลักสูตร อาทิ หลักสูตร พยาบาล สาธารณสุข อนามัยสิ่งแวดล้อม เวชกิจฉุกเฉิน รังสีเทคนิค สถิติ และในระดับ ปวส. เราก็มีหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล และเวชกิจฉุกเฉิน

ทั้งนี้ สบช. ใช้วิธีรับสมัครนักศึกษา ระบบ TCAS แบบที่ 1 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แบบที่ 2 โควตา (Quota) แบบที่ 3 รับตรงร่วมกัน (Admission 1) และแบบที่ 4 รับกลางร่วมกัน (Admission 2)  โดย ระบบ TCAS แบบที่ 1 จะเริ่มรับสมัครวันที่ 5 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป เด็กที่สมัครแล้วในหลักการคือจะรับทันที

“สบช.สัญจรที่ จ.สิงห์บุรี จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 12 โรงเรียน มีเด็กให้ความสนใจสมัครเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก สัญจรครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ จ.ลพบุรี ในวันที่ 4 ต.ค. มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ 19 โรงเรียน คาดว่าจะสัญจรครบ 800 โรงเรียนได้ก่อน ม.ค. 2565 โดยมีเป้าหมายในการรับนิสิตสายพยาบาล 4,000 คน สาธารณสุข 2,000 คน”  นพ.วิชัย กล่าว