ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อาการแปลกๆ บางอย่าง เรื่องบางเรื่องที่เรามองเห็น ได้กลิ่น ได้ยินเสียง สัมผัสได้ ทั้งที่ไม่มีสิ่งนั้นอยู่จริง มักถูกมองว่าเป็นเรื่องของภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับ ไสยศาสตร์

แต่ในความเป็นจริง อาการเหล่านี้สามารถหาสาเหตุและสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ เพราะส่วนใหญ่นั้นมีความเกี่ยวข้องกับระบบประสาทของมนุษย์เรานั่นเอง

นพ.ชลภิวัฒน์ ตรีพงษ์ นายแพทย์ชำนาญการ สถาบันประสาทวิทยา อธิบายว่า สมองของคนเรานั้นทำหน้าที่สลับซับซ้อนมาก สมองบางส่วนทำหน้าที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับระบบประสาทสัมผัส การรับรู้ ซึ่งสามารถอธิบายสิ่งที่ผู้ป่วยรับรู้ผิดปกติไปได้ เช่น เห็นภาพ ได้ยินเสียง ได้กลิ่น สัมผัส ทั้งที่ไม่มีสิ่งกระตุ้นนั้นอยู่จริง เรียกรวมว่ากลุ่มอาการประสาทหลอน (Hallucination)

ดังนั้นการตรวจวินิจฉัยจะพิจารณาจากการทำงานของสมองส่วนต่างๆ ตามอาการทางประสาทสัมผัสของคนไข้ ซึ่งสามารถมีได้มากกว่าหนึ่งอาการคราวเดียว ยกตัวอย่างเช่น เห็นภาพพร้อมกับได้ยินเสียง หรือได้กลิ่นร่วมด้วย ก็เป็นไปได้ว่าสมองทำงานผิดปกติมากกว่าหนึ่งส่วน เมื่อวินิจฉัยจนได้คำตอบว่าสมองส่วนใดที่ผิดปกติ ก็จะเป็นแนวทางในการรักษาต่อไป

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอาการที่ถูกมองว่าเป็นผลจากเรื่องสิ่งลี้ลับ เช่น อาการเห็นผิด (Illusion) คือการเห็นสิ่งที่มีอยู่จริง แต่สมองแปลผลผิดจากความเป็นจริง เช่น เห็นสายยางเป็นงู หรือเห็นสุนัขเป็นเสือ หรืออาการหลงผิด (Delusion) เหมือนอย่างกรณีเหตุฆาตกรรมในครอบครัว ซึ่งผู้ก่อเหตุอ้างว่างถูกผีสั่งให้ทำ ก็จัดอยู่ในกลุ่มอาการทางจิตเวชเช่นกัน

บางกรณีไม่ได้เกิดการรับรู้จากตัวผู้ป่วย แต่เป็นการตีความจากผู้พบเห็น เช่นที่บอกว่าผู้ป่วยคนนั้นมีอาการ “ผีเข้า” เมื่อเห็นผู้ป่วยมีอาการตาเหลือกขวาง ทั้งที่คือภาวะสมองอักเสบเนื่องจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ เช่น สมองอักเสบจากแอนติบอดี้ NMDA มักเริ่มจากอาการไข้ จากนั้นบุคลิกภาพเริ่มแปลกไปจากเดิม บางคนก้าวร้าว กรีดร้อง ตาเหลือก จนในที่สุดมีอาการซึม แน่นิ่งไป ทั้งหมดนี้ญาติหรือผู้พบเห็นคิดว่าผู้ป่วยถูกผีเข้า แต่ในทางการแพทย์มีโรคชนิดนี้อยู่จริง สามารถให้การตรวจรักษาได้  

อีกเรื่องที่พบได้บ่อย คือผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัด แล้วพบเส้นผม เล็บ ฟัน ในช่องท้อง กรณีเช่นนี้ถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับเรื่อง “โดนของ” หรือ “คุณไสย” แต่จริงๆ แล้วเป็นเรื่องความผิดปกของการแบ่งเซลล์ที่มีมาตั้งแต่ปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน แล้วเซลล์อวัยวะอย่าง ผิว ผม เล็บ ซึ่งควรจะเจริญเติบโตภายนอก กลับมีการเจริญเติบโตผิดที่ และสามารถพบอวัยวะเหล่านี้ในช่องท้องได้ โดยส่วนมากพบในคนไข้เพศหญิง โดยทั่วไปเรามักเรียกกันว่า “เนื้องอก” นั่นเอง

การอุปทานหมู่ (Mass Hysteria) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับจิตสังคมซึ่งเกิดขึ้นกับบุคคลตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งนั้นมีความคิดความเชื่อว่าตนเจ็บป่วยเป็นโรคเดียวกันหรือเผชิญปัญหาเดียวกัน จึงแสดงอาการออกมาแบบเดียวกัน เช่น หลายคนออกอาการเหมือนผีเข้า หลายคนส่งเสียงกรีดร้องโดยไม่มีเหตุผล บางรายเห็นภาพหลอน แสดงกิริยาก้าวร้าวออกมาเป็นต้น  

นี่รวมทั้งเวลาที่จู่ๆ ก็รู้สึกขนลุก หลายคนคิดว่ากำลังเจอกับเรื่องลี้ลับ แต่จริงๆ แล้วอาการพวกนี้มาจากโรคทางระบบประสาทที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการขนลุกเป็นพักๆ โดยไม่มีเหตุได้ เช่น อาการขนลุกจากโรคลมชัก อาการขนลุกจากสมองอักเสบเนื่องจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ เป็นต้น

นอกเหนือจากคำอธิบายจากโรคทางระบบประสาทและสมองแล้ว อาการแปลกๆ เหล่านี้ทั้งหมดบางอย่างที่เป็นกลุ่มอาการทางจิตเวช ยังสามารถอธิบายจากโรคทางจิตเวชได้เช่นกัน และยังมีกลุ่มโรคที่หลากหลาย ซึ่งในบางครั้งอาจจะแยกจากกันได้ยาก แพทย์เฉพาะทางด้านโรคสมองและระบบประสาท จึงอาจจะต้องประสานงานเพื่อร่วมในการรักษาด้วย

“สิ่งที่แพทย์มักจะแนะนำแก่ผู้ป่วยหรือคนรอบข้างคือ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นและมีความผิดปกติ สามารถหาสาเหตุและสามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์

“หากผู้ป่วยหรือญาติเชื่อว่าความเจ็บป่วยนั้นเกิดจากภูตผีปีศาจ หรือสิ่งลี้ลับ แล้วละทิ้งการเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยการแพทย์สมัยใหม่ ยิ่งทิ้งระยะเวลาไปนานเท่าไร โอกาสในการรักษาให้หายหรือกลับมาเป็นปกติก็จะลดลงไปเรื่อยๆ” นพ.ชลภิวัฒน์ ระบุ

อนึ่ง สิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประชาชนไทย ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ประกันสังคม สิทธิข้าราชการ สามารถนำมาใช้ในกระบวนการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้ทั้งหมด

นั่นหมายความว่าผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาด้วย ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นภาระต่อฐานะทางเศรษฐกิจแน่นอน