ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ 3 แนวทางในการจัดการศพที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 อย่างปลอดภัยจากโรงพยาบาลจนถึงวัด


​กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้คำแนะนำถึงการจัดการศพผู้ที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อย่างปลอดภัย โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย

1. การยืนยันสาเหตุการตาย โดยแยกเป็น 2 กรณี คือ 

(1) เสียชีวิตในโรงพยาบาล จะดำเนินการโดยทีมจัดการศพ โดยศพผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุใส่ถุงบรรจุศพและทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงบรรจุศพตามมาตรฐาน 

แพทย์ที่ทำการรักษาจะออกหนังสือรับรองการตาย (ท.ร.4/1) ระบุสาเหตุการตายว่าเป็นการตายด้วยโรคโควิด-19

(2) เสียชีวิตนอกโรงพยาบาล ทีมจัดการศพจะนำศพใส่ถุงบรรจุศพตามมาตรฐาน แล้วแจ้งพนักงานสาธารณสุขใกล้บ้านหรือพนักงานควบคุมโรคติดต่อของโรงพยาบาล 

โดยให้แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และตำรวจชันสูตรพลิกศพ บันทึกสภาพศพ และหลักฐานต่างๆ ลงสาเหตุการตาย โดยให้ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขออกหนังสือรับรองการตาย (ทร4) 

2. การแจ้งตาย กรณีเสียชีวิตทั้งในและนอกโรงพยาบาล 

ให้นำเอกสารรับรองการตาย (ทร. 4) จากโรงพยาบาล พร้อมด้วยบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน นำไปแจ้งการตายต่อนายทะเบียน ณ ที่ทำการปกครองอำเภอหรือท้องถิ่น และออกใบ      มรณบัตรภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้ญาติสามารถนำศพออกจากโรงพยาบาลไปฌาปนกิจได้ 

3. การขนศพผู้เสียชีวิตและการประกอบพิธีทางศาสนา 

กรณีญาติมีความพร้อม หลังจากที่ญาติรับทราบแนวปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และมีใบมรณบัตร สามารถประสานวัดและอาสาสมัคร หรือกู้ภัย หรือมูลนิธิเพื่อขนศพ  แต่หากญาติไม่มีความพร้อมหรือติดโควิดทั้งครอบครัว และศพไม่มีญาติ ให้แจ้งโรงพยาบาลเพื่อประสานกับทางวัด เพื่อดำเนินการขนศพ

ทั้งนี้ ระบบ Thai Stop COVID Plus ของกรมอนามัย ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวบรวมข้อมูลรายชื่อวัดที่รับฌาปนกิจผู้ติดเชื้อโควิด-19 ฟรี โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อวัด สถานที่ตั้ง และแผนที่วัด ได้ที่  https://stopcovid.anamai.moph.go.th/dashboard_regious/

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การจัดพิธีศพทางศาสนา ทั้งการเผาศพหรือฝังศพทั้งถุง ขอให้ดำเนินการในพื้นที่ที่จัดเตรียมเฉพาะ ห้ามเปิดถุงบรรจุศพอย่างเด็ดขาด เนื่องจากอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ ควรดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 1 วัน และขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ การเผาศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ให้ใช้เตาเผาศพเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเผากลางแจ้ง และควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาศพไม่น้อยกว่า 760 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในห้องควันไม่น้อยกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ตลอดระยะเวลาการเผาศพ โดยในระหว่างการเผาศพไม่ควรเปิดประตูเตาเผาศพ หลีกเลี่ยงการเขี่ยศพหรือพลิกศพ 

“เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงาน        ในพิธีเผาศพอาจไม่จำเป็นต้องใส่ชุด PPE หากไม่พบการฉีกขาดของถุงบรรจุศพ และภายหลังเสร็จพิธีเผาศพ เมื่อกลับถึงบ้านให้อาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที” นพ.สุวรรณชัย กล่าว