สปสช.รับฟังความเห็นระดับประเทศ ยกระดับ ‘บัตรทองยุคโควิด-19’ พัฒนาระบบ-กองทุนหลักประกันฯ

สปสช. จัดเวทีรับฟังความเห็นระดับประเทศ “กองทุนบัตรทอง ยุคโควิด-19” อนุทิน ย้ำ สถานกาณ์โควิด-19 บทพิสูจน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดูแลสุขภาพคนไทยช่วงวิกฤติ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานเปิดการจัดรับฟังความคิดเห็นทั่วไประดับประเทศ ประจำปี 2564 “ระบบหลักประกันสุขภาพสุขภาพแห่งชาติ ในยุคโควิด-19” ผ่านทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2564 ซึ่งเป็นไปตามตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 18 (13) ที่เป็นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 

นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยกำลังเผชิญต่อมหันตภัยร้าย “การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” ทำให้ผู้คนนับล้านๆ คนล้มป่วยและเสียชีวิต ระบบสุขภาพที่เข้มแข็งจึงเป็นสิ่งสำคัญช่วยลดสภาวการณ์เลวร้ายนี้ได้ ซึ่งประเทศไทยมีกองทุนบัตรทองที่ดูแลคนไทยมาตลอด 18 ปี สถานการณ์นี้เป็นบทพิสูจน์ถึงการทำหน้าที่หลักประกันสุขภาพให้กับคนไทยเป็นอย่างดี แม้ในยามภาวะฉุกเฉินวิกฤตก็ตาม โดยจัดเตรียมงบประมาณและสิทธิประโยชน์ครอบคลุมบริการสาธารณสุขที่จำเป็น สนับสนุนการทำงานกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย เข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึง      
หลักประกันสุขภาพแห่งชาติวันนี้ 

นอกจากนโยบายรัฐบาลสนับสนุนที่จริงจังและต่อเนื่องแล้ว ยังมาจากรากฐานที่แข็งแรงซึ่งเกิดจากการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยมีกระบวนการรับฟังความเห็นทั่วไปฯ เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ โดย สปสช. ดำเนินการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี แม้แต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขับเคลื่อนด้วยรูปแบบที่เน้นรับฟังความเห็นผ่านระบบออนไลน์

“การประชุมรับฟังความคิดเห็นทั่วไปฯ ในวันนี้ เชื่อมั่นว่าทุกภาคส่วน ทั้งผู้ให้บริการ ผู้รับริการ องค์กรวิชาชีพทางการแพทย์และภาคประชาชน จะร่วมกันแสดงความคิดเห็นและจะมีข้อเสนอดีๆ มาร่วมพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว

นพ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อนุกรรมการสื่อสารสังคมและรับฟังความเห็นจากผู้ให้และผู้รับบริการ กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 สะท้อนชัดเจนแล้วว่า หลักประกันสุขภาพแห่งชาติดูแลคนไทยให้มีความมั่นคงทางสุขภาพได้ จากการเข้าถึงบริการโควิด-19 ที่จำเป็น ไม่มีค่าใช้จ่ายเป็นอุปสรรค ขณะที่ สปสช. เองมีการจัดสิทธิประโยชน์รองรับ ปรับปรุงการบริหารจัดการที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด นับเป็นสิ่งที่เราทุกคนต่างภูมิใจ เนื่องจากได้มีส่วนร่วมที่ทำให้เกิดหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในวันนี้ โดยผ่านกระบวนการรับฟังความเห็นทั่วไปฯ

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สปสช. ได้จัดทำแผนรับมือโควิด-19 เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุข ทั้งงบประมาณ การบริหารจัดการและสิทธิประโยชน์โควิด-19 ที่จำเป็น ครอบคลุมทั้งคัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษาพยาบาล และลดการแพร่ระบาด รวมไปถึงการดูแลผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยโรคเรื้อรังให้เข้าถึงบริการในสภาวการณ์ที่ไม่ปกติ 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังมีส่วนที่ต้องเพิ่มเติม ซึ่งเราจะได้จากการรับฟังความเห็นทั่วไปในครั้งนี้ โดย สปสช. จะทำรวบรวมความเห็นต่างๆ ที่ได้รับ สรุปผลและนำเสนอต่อบอร์ด สปสช. พิจารณาเพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาการบริหารจัดการและสิทธิประโยชน์ต่อไป เพื่อดูแลให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขได้อย่างครอบคลุมและทั่วไป ตามเจตนารมณ์ พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ