ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เลขาธิการ สปสช. ยืนยันความพร้อมสายด่วน 1330 หากประชาชนโทรมาแล้วไม่มีคนรับ จะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับไปหาอย่างแน่นอน


นพ.จเด็จ ธรรมรัชอารี  เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า เป้าหมายของสายด่วนประสานเตียง 1330 คือจะต้องไม่มีสายค้างอยู่ในระบบ ฉะนั้นหากประชาชนโทรมาแล้วยังไม่มีคนรับสาย ยืนยันว่าจะมีคนโทรกลับไปหาอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ก็มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยสนับสนุนการโทรกลับไปหาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้เพิ่มเจ้าหน้าที่เข้ามาสนับสนุนการให้บริการสายด่วน สปสช. 1330 จากช่วงแรกที่มีอยู่ราว 30 คน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 140 คน ในจำนวนนี้มี 60 คนที่ทำหน้าที่ช่วยโทรกลับไปหาประชาชน นอกจากนี้ยังมีการบันทึกข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่จะทำให้ทราบได้ว่ามีสายเข้าสายออกเท่าไร เพื่อนำไปปรับแผนในแต่ละวันได้

นพ.จเด็จ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2564 เป็นต้นมา สายด่วน สปสช. 1330 มีผู้โทรเข้ามาสอบถามเฉลี่ยวันละ 4,000 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อวันละกว่า 100 ราย และขณะนี้มีผู้ป่วยที่ยังค้างอยู่ในระบบกว่า 500 ราย ซึ่งระหว่างรอเตียงนั้น สปสช.จะมีระบบโทรติดตามทุก 6 ชั่วโมง เพื่อติดตามอาการและประสานกับโรงพยาบาลเพื่อหาเตียงต่อไป

“แม้ว่าเราจะมีการดำเนินการไปมากแล้ว แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาก็ยังมีผู้ป่วยที่เข้าเตียงไม่ได้อยู่ โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเปิดศูนย์แรกรับ เพื่อนำทุกคนที่ติดเชื้อมารวมกันก่อน จากนั้นก็จะคัดแยกว่าใครมีระดับอาการเป็นสีไหน ซึ่งก็จะช่วยให้คนไข้ที่รออยู่ที่บ้านมีจำนวนลดลง” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ขณะนี้คนไข้ราว 10% ปฏิเสธเจ้าหน้าที่เข้าไปรับตัว โดยให้เหตุผลว่าอยู่บ้านมาหลายวันแล้ว อยากอยู่บ้านต่อจนหาย แต่เชื้อโควิด-19 สามารถพัฒนาเป็นอาการรุนแรงได้ภายในวันเดียว ฉะนั้นจึงอยากให้ประชาชนเข้าสู่ระบบการรักษา ซึ่งแม้ว่าเตียงจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ใกล้บ้านที่สุด หรืออยู่ไกลจากที่พัก แต่การได้รับการดูแลจากแพทย์ย่อมเป็นสิ่งที่ดี ฉะนั้นขอความร่วมมือประชาชนให้ไปเข้ารับการดูแลตามสถานที่ที่จัดไว้ให้ก่อน