ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มูลนิธิเข้าถึงเอดส์จี้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยกคำขอสิทธิบัตร “ฟาวิพิราเวียร์” ของบริษัทญี่ปุ่น เปิดทาง อภ.ผลิตยาใช้รักษาโควิดให้ประชาชนราคาถูก


นายเฉลิมศักดิ์ กิตติตระกูล ผู้จัดการโครงการส่งเสริมการเข้าถึงยา มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยกับ “The Coverage” ตอนหนึ่งว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งใช้รักษาโรคโควิด-19 นั้น ไม่ใช่ยาใหม่ ในอดีตใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งองค์การเภสัชกรรม (อภ.) มีศักยภาพในการผลิตได้ แต่ยาดังกล่าวมีบริษัทญี่ปุ่นได้ขอยื่นจดสิทธิบัตรไว้ เป็นเหตุให้แม้ อภ.จะผลิตออกมา ก็ไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบได้

“ปัญหาคือถ้าบริษัทจากญี่ปุ่นยังไม่ยอมถอนคำขอรับสิทธิบัตร หรือกรมทรัพย์สินทางปัญญายังไม่ยอมยกคำขอนี้ออก แม้องค์การเภสัชกรรมจะสามารถผลิตยาตัวนี้ได้ ก็ไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบได้ ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว” นายเฉลิมศักดิ์ กล่าว

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทย ยาดังกล่าวเริ่มเหลือน้อยแล้ว เพราะผู้ป่วย 1 ราย ต้องกินยา 40-70 เม็ด อย่างไรก็ดีรัฐบาลได้สั่งซื้อเพิ่มมาอีก 2 ล้านเม็ด คาดว่าจะมาถึงในวันจันทร์นี้

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า หากประเทศไทยสามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เองได้ จะทำให้ราคายาถูกลงมาก แต่ทุกวันนี้จำเป็นต้องยอมซื้อในราคาที่สูงเนื่องจากมีเรื่องคำขอสิทธิบัตรอยู่ มากไปกว่านั้นคือยาที่ประเทศไทยซื้อ เป็นยาที่บริษัทเจ้าของสิทธิบัตรผลิตขึ้นในประเทศอินเดีย แต่ขณะนี้อินเดียโควิด-19 ระบาดหนัก หากอินเดียล็อกดาวน์ ส่งยาไม่ได้ ไทยจะเกิดปัญหาทันที

“อย่างที่ทราบกันว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่ได้มีผลป้องกันได้ 100% นั่นหมายความว่าประชาชนยังมีโอกาสป่วยอยู่ ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยานี้ไปจนกว่าจะมียาที่สามารถรักษาโรคโควิด-19 หรือมีวัคซีนที่สามารถป้องกันได้ 100% ฉะนั้นประเทศไทยจึงผลิตยานี้เองเพื่อความมั่นคง” นายเฉลิมศักดิ์ กล่าว